‘สเปนวิปโยค’ รวมภาพน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุด ผู้เสียชีวิตพุ่ง 158 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ 'สเปน' พุ่งขึ้นเป็น 158 รายแล้ว ทีมกู้ภัยยังคงค้นหาผู้สูญหายอีกหลายสิบคน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในภาคตะวันออกของสเปนเพิ่มขึ้นเป็น 158 รายเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.67) ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงค้นหาผู้สูญหายอีกหลายสิบคน
เมื่อวันอังคารที่ 29 ต.ค.67 ในพื้นที่บางส่วนของแคว้นบาเลนเซีย (Valencia) เกิดฝนตกหนักยาวนาน 8 ชั่วโมง แต่ปริมาณน้ำฝนเทียบเท่ากับที่ตกตลอดทั้งปี นับเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สเปนยุคปัจจุบัน และอาจเป็นหนึ่งในวาตภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในยุโรปในรอบกว่า 50 ปี
มาริอา โฆเซ กาตาลา นายกเทศมนตรีบาเลนเซีย กล่าวกับนักข่าวว่า ทีมกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิต 8 ศพ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น 1 นาย ซึ่งติดอยู่ในโรงรถในเขตชานเมืองของบาเลนเซีย
เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่จากฝนตกหนักในแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออกของประเทศ ทำให้น้ำพัดพาสะพาน และอาคารหลายแห่งพังเสียหาย รถยนต์กองซ้อนทับกันอยู่บนทางหลวง และน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมในแคว้นซึ่งเป็นแหล่งปลูกส้มที่สำคัญ โดยบาเลนเซียผลิตส้มได้ถึง 2 ใน 3 ของทั้งประเทศ และทำให้สเปนเป็นผู้ส่งออกส้มรายใหญ่ของโลก
ชาวบ้านในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดเล่าถึงภาพที่ผู้คนต้องปีนขึ้นไปหลบน้ำท่วมบนหลังคารถ ขณะที่กระแสน้ำสีน้ำตาลไหลเชี่ยวกรากพัดถาโถมเข้ามาตามท้องถนน ทั้งถอนรากต้นไม้ และกัดเซาะชิ้นส่วนอาคารหลุดร่วงไปกับสายน้ำ
ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบเมืองบาเลนเซียที่ท่วมไปด้วยโคลนหลังน้ำท่วม
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ แห่งสเปนให้คำมั่นก่อนหน้านี้ว่า จะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด พร้อมกล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ว่า "สำหรับพี่น้องประชาชนที่ยังคงตามหาคนที่คุณรักอยู่ในขณะนี้ ชาวสเปนทั้งประเทศขอร่ำไห้ไปกับคุณ"
นอกจากบาเลนเซียแล้ว ยังเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะที่แคว้นอันดาลูซิอา (Andalusia) ทางตอนใต้ และนักพยากรณ์อากาศยังเตือนว่าสถานการณ์อาจแย่ลงอีก เนื่องจากพายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ
อุทกภัยครั้งนี้ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่ปี 2564 ที่มีคนเสียชีวิตในเยอรมนีถึง 185 คน และอาจเป็นเหตุน้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสเปนด้วย เพราะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าเหตุน้ำท่วมเมื่อปี 2539 ที่คร่าชีวิตผู้คน 87 คนในเมืองบีเอสกัสซึ่งอยู่แถบเทือกเขาพิเรนีส
ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วบ่อยครั้งขึ้น โดยนักอุตุนิยมวิทยามองว่า เมื่อทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำระเหยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักรุนแรงกว่าที่เคย
"เมื่อก่อน เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ แต่ปัจจุบันกลับเกิดถี่ขึ้น และสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าเดิม" เอร์เนสโต โรดริเกซ คามิโน นักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสประจำรัฐ และสมาชิกสมาคมอุตุนิยมวิทยาสเปน กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์