เปิดปัจจัยหนุนชัยชนะทรัมป์ 2.0

เปิดปัจจัยหนุนชัยชนะทรัมป์ 2.0

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างไม่เป็นทางการตามการรายงานของสื่อ ระบุว่าโดนัลด์ ทรัมป์ได้กลับมานั่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง สร้างความฉงนใจให้ใครหลายคนว่าปัจจัยใดทำให้เขาคว้าชัยชนะได้

การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่มีการพิจารณาคดีอาญาเกี่ยวข้องกับทรัมป์ระหว่างหาเสียง เขาถูกพยายายามลอบสังหารสองครั้ง และพรรคเดโมแครตเปลี่ยนตัวคู่แข่งกะทันหันจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส 

ชัยชนะครั้งที่ 2 ทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในรอบ 132 ปีที่แพ้เลือกตั้งประธานาธิบดีไปแล้วแต่กลับมาชนะได้อีก หลังจากเหตุแบบนี้เคยเกิดกับประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ เมื่อปี 1892

  เว็บไซต์เดอะฮิลล์รายงานว่า ทรัมป์ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียงเป็นเครื่องการันตีเส้นทางสู่ทำเนียบขาว หลังจากลุยหาเสียง 100 วันสุดท้ายแข่งกับแฮร์ริส โพลชี้ว่าในรัฐสวิงสเตตทั้งเจ็ด คู่แข่งทั้งสองคนมีคะแนนไม่แตกต่างกันจนกระทั่งมาชี้ชะตาในวันเลือกตั้ง

สุดท้ายแล้วอดีตประธานาธิบดีเป็นฝ่ายมีชัย ดึงรัฐจอร์เจียกลับมาได้ รักษานอร์ทแคโรไลนาไว้ได้ และทะลาย “กำแพงสีน้ำเงิน” หรือรัฐที่พรรคเดโมแครตชนะมาโดยตลอด

ทั้งนี้ ทรัมป์และเจดี แวนซ์ ส.ว.รัฐโอไฮโอ คู่ชิงรองประธานาธิบดีใช้ประโยชน์จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่พอใจกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ผู้อพยพบริเวณชายแดนภาคใต้พุ่งพรวด และความไร้เสถียรภาพในต่างแดนยุครัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน เปลี่ยนใจโหวตเตอร์ให้หันมาหาตน 

เอ็กซิทโพลชี้ว่า ทรัมป์ได้คะแนนเพิ่มขึ้นอย่างมากในหมู่ชาวลาติน หนุนให้เขามีคะแนนในชนบทเพิ่มขึ้น กล่าวได้ว่าทรัมป์ทำผลงานได้ดีกว่าโพล และดูเหมือนจะดึงคะแนนเสียงได้มากขึ้น ถือเป็นชัยชนะอันโดดเด่น

หากย้อนไปสู่การเลือกตั้งปี 2016 ชัยชนะของทรัมป์อาจเป็นผลจากความต้องการลองของใหม่ ที่ไม่มีใครรู้จักในด้านการเมือง ชาวอเมริกันในเวลานั้นตัดสินใจร่วมกันให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีของตน

เว็บไซต์เอบีซีรายงานว่า ตลอดสิบปีที่ผ่านมาทรัมป์พลิกภูมิทัศน์การเมืองสหรัฐชนิดกลับหัวกลับหาง เขาเปลี่ยนพรรครีพับลิกันแบบถอนรากถอนโคน พรรคนี้เคยเป็นพรรคแห่งการค้าเสรี แต่ตอนนี้ผู้นำพรรคกลับเรียก “ภาษี” ว่าเป็นคำที่ไพเราะที่สุดในภาษาอังกฤษ พรรคที่เคยพยายามเผยแพร่ประชาธิปไตยและทำตัวเป็นตำรวจโลก แต่ตอนนี้หันมานิยมแยกตัวเองออกจากโลก

นโยบายเศรษฐกิจ-ต้านเข้าเมืองโดนใจ

ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการชี้ให้เห็นว่าประเทศดำเนินไปอย่างไรหลังจากเขาพ้นตำแหน่ง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการเข้าเมือง เขาสามารถจูงใจสาธารณชนอเมริกันให้เชื่อว่าถ้าเขากลับมาแล้วราคาสินค้าจะลดลง แนวคิดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในประเทศที่เงินเฟ้อสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ นับเป็นโชคร้ายของไบเดนและแฮร์ริสที่แม้เงินเฟ้อคงที่ แต่ประชาชนยังไม่คุ้นกับการที่สินค้าราคาสูงแบบนี้

แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจหลายปัจจัย เช่น การว่างงานและการเติบโตจะแข็งแกร่ง แต่เงินเฟ้อกลับเป็นพิษทางการเมือง คามาลา แฮร์ริสดูไม่สบายใจเลยเมื่อพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจ

การเข้าเมืองอาจเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่าทีมไบเดน/แฮร์ริสก้าวพลาดครั้งใหญ่ พวกเขารับตำแหน่งและยกเลิกนโยบายเข้าเมืองอันเข้มงวดของทรัมป์หลายนโยบาย ไบเดน/แฮร์ริสล้อเลียนแผนการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนของทรัมป์และลดทอนกฎระเบียบ ตัวเลขการลักลอบเข้าเมืองพุ่งสูงมากในรัฐบาลไบเดน เดือน ธ.ค.2566 ทะลุระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน สูงถึงเกือบ 250,000 คน

เรื่องฉาวไม่มีผล

ทรัมป์เป็นคนไม่แคร์กับการ “พูดนอกบท” แตกต่างจากคู่แข่งของเขา และไม่ยึดติดกรอบการเล่นการเมืองอย่างสุภาพ

การแข่งขันครั้งนี้มีหลายประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบมาโจมตี เช่น ตอนประชันวิสัยทัศน์กับแฮร์ริส ทรัมป์กล่าวว่า ผู้อพยพชาวเฮติในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ รับประทานสุนัขและแมวทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน แต่ทรัมป์ก็ไม่เคยขอโทษ

การหาเสียงโค้งสุดท้ายที่เมดิสันสแควร์การ์เดน ดาวตลกคนหนึ่งที่ไปช่วยทรัมป์หาเสียงเรียกเปอร์โตริโกเป็น “เกาะขยะลอยน้ำ” พรรคเดโมแครตนำมุกตลกนี้ไปขยายความว่านี่คือหลักฐานการดูถูกชาวเปอร์โตริโก

แต่เรื่องฉาวเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อเสียงสนับสนุน เผลอๆ ประชาชนไม่เชื่อเสียด้วยซ้ำไป ด้วยมองว่า ประเด็นอย่างเศรษฐกิจและการเข้าเมืองสำคัญกว่า

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ชาวอเมริกันก็รู้จักโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอย่างดี เขาไม่ใช่คนที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน การลงคะแนนเลือกทรัมป์ในรอบนี้จึงไม่ใช่การเลือกเพราะความไม่รู้