ทำไมการเข้ามาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ อาจเป็นทางรอดของ TikTok ในสหรัฐ ?
ทรัมป์ อาจช่วย TikTok รอดพ้นการแบน หลังชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน สั่งให้ ByteDance ขาย TikTok ภายใน 19 ม.ค.67 แต่ ทรัมป์ เคยแสดงจุดยืนคัดค้านการแบน พร้อมระบุ Meta คือ ภัยคุกคามที่น่ากังวลมากกว่า ขณะที่ตัวทรัมป์เองมีผู้ติดตามบน TikTok กว่า 14 ล้านคน
หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหลายท่าน เช่น ทิม คุก ของ Apple, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ของ Meta และ เจฟฟ์ เบซอส ของ Amazon ได้ออกมาชื่นชมประธานาธิบดีคนใหม่
แต่มีชื่อหนึ่งที่หายไปนั้นคือ "โช จื่อ ชิว" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ TikTok
บทวิเคราะห์ของซีเอ็นบีซี ระบุว่า การไม่ปรากฏตัวของเขามีนัยสำคัญ เมื่อพิจารณาจากบริบทที่ว่าในบรรดาบริษัทเทคฯ ชั้นนำทั้งหมด TikTok กำลังเผชิญภัยคุกคามและภัยที่เป็นอันตรายต่อการดำรงของแพลตฟอร์มจากรัฐบาลสหรัฐ
ในเดือนเม.ย. ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามกฎหมายที่กำหนดให้ ByteDance ของจีนต้องขาย TikTok ภายในวันที่ 19 ม.ค. หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามผู้ให้บริการ โฮสติ้งอินเทอร์เน็ต และเจ้าของแอปสโตร์ เช่น Apple และ Google จะถูกห้ามไม่ให้สนับสนุน TikTok ซึ่งเท่ากับเป็นการแบน TikTok ในสหรัฐโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม การกลับมาสู่ทำเนียบขาวของ ทรัมป์อาจให้ทางรอดแก่ ชิว และ TikTok
แม้ว่าทั้งพรรครีพับลิกัน และเดโมแครตสนับสนุนการแบน TikTok ทว่าทรัมป์กลับคัดค้านการแบนระหว่างการหาเสียง โดยเขายอมรับถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเกี่ยวกับ TikTok ในการให้สัมภาษณ์ช่วงเดือนมี.ค. แต่เขายังกล่าวเป็นนัยว่า
"การมีอยู่ของ Tiktok มีทั้งข้อดี และข้อเสีย"
ทรัมป์ยังใช้อนาคตที่ไม่แน่นอนของ TikTok ในสหรัฐเป็นเหตุผลให้ผู้คนลงคะแนนต่อต้านรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต
"พวกเราจะไม่ทำอะไรกับ TikTok แต่อีกฝ่าย (เดโมแครต) จะปิดแอปนี้ ดังนั้นถ้าคุณชอบ TikTok ออกไปลงคะแนนให้ทรัมป์" ประธานาธิบดีคนใหม่กล่าวในโพสต์บน Truth Social ของเขาในเดือนก.ย.
นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง ทรัมป์ยังไม่ได้กล่าวถึงการดำเนินการใดๆ กับ Tiktok ต่อสาธารณะ แต่ คาโรลีน เลวิตต์ โฆษกการเปลี่ยนผ่านของ ทรัมป์-แวนซ์ เปิดเผยว่าประธานาธิบดีคนใหม่ "จะทำตามที่สัญญา"
"ประชาชนชาวอเมริกันเลือกประธานาธิบดีทรัมป์กลับมาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ให้อำนาจเขาในการดำเนินการตามสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียง" ลีวิตต์ กล่าวในแถลงการณ์
ท่าทีของทรัมป์ต่อ Tiktok เปลี่ยนไป
คำพูดของ ทรัมป์เกี่ยวกับ TikTok เริ่มเปลี่ยนไปหลังจากประธานาธิบดีคนใหม่พบกับ เจฟฟ์ ยาสส์ มหาเศรษฐีผู้บริจาคเงินให้พรรครีพับลิกัน และนักลงทุนรายใหญ่ในแอปโซเชียลมีเดียของจีนในเดือนก.พ.
บริษัทเทรดดิ้ง Susquehanna International Group ของยาสส์ ถือหุ้น Byte Dance ประมาณ 15% ในขณะที่ยาสส์ รักษาสัดส่วนการถือหุ้น 7% ในบริษัทดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนเดียวกันนั้นมีรายงานว่ายาสส์เป็นเจ้าของธุรกิจที่ควบรวมกับบริษัทแม่ของ Truth Social ของทรัมป์ส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของซีเอ็นบีซี ระบุว่า หาก ByteDance ไม่ขาย TikTok ภายในเส้นตายเดือนม.ค. ทรัมป์อาจเรียกร้องให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายหรือเขาสามารถ “บังคับใช้กฎหมายแบบเลือกปฏิบัติ" ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะอนุญาตให้ TikTok ดำเนินกิจการต่อในสหรัฐโดยไม่ต้องเผชิญกับบทลงโทษ
ซาร่าห์ เครปส์ ศาสตราจารย์ด้านการปกครองจากมหาวิทยาลัย Cornell กล่าวว่า "การบังคับใช้กฎหมายแบบเลือกปฏิบัติ" จะคล้ายกับกรณีที่ตำรวจไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างถ้วนหน้ากับผู้ที่ข้ามถนนแบบผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ชิวยังคงไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรนับตั้งแต่ชัยชนะของทรัมป์
ทั้งนี้ บริษัทของจีนอาจกำลังจับตาสถานการณ์ในตอนนี้ ลอง เลอ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจจีน และอาจารย์สอนร่วมจากมหาวิทยาลัย Santa Clara กล่าว
พร้อมอธิบายเสริมว่า "มันยากที่จะคาดเดาว่าทรัมป์จะทำอะไร"
"เขาเป็นคนชอบทำตรงข้าม นั่นคือ สิ่งที่ทำให้เขาคาดเดายาก" เลอกล่าว พร้อมกล่าวต่อว่า "เขาสามารถพูดสิ่งหนึ่ง และปีถัดไปเขาจะเปลี่ยนความคิดก็ได้"
ทั้งนี้ TikTok ไม่ตอบสนองต่อการขอสัมภาษณ์
'Facebook เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากสำหรับประเทศของเรา'
เมื่อพูดถึงแอปโซเชียลมีเดีย ความคิดเห็นในการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์บ่งชี้ว่าเขากังวลกับการมีอยู่ของ Meta มากกว่า Tiktok เสียอีก
ในการให้สัมภาษณ์กับ "Squawk Box" ช่วงเดือนมี.ค. ทรัมป์กล่าวว่า Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook และ Instagram สร้างปัญหามากกว่า TikTok เขายังกล่าวว่าการแบน TikTok จะเป็นประโยชน์เฉพาะกับ Meta ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "ศัตรูของประชาชน"
แต่มุมมองเชิงลบของ ทรัมป์ต่อ Meta อาจเปลี่ยนไปหลังจากความคิดเห็นของซัคเคอร์เบิร์กในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เครปส์ จาก Cornell กล่าว
ซัคเคอร์เบิร์ก อธิบายภาพของ ทรัมป์ที่ชูกำปั้นหลังจากรอดพ้นจากความพยายามลอบสังหารในเดือนก.ค.ว่าเป็น "หนึ่งในสิ่งที่เท่ที่สุดที่ผมเคยเห็นในชีวิต" และหลังจาก ทรัมป์ชนะซัคเคอร์เบิร์กแสดงความยินดี โดยกล่าวว่าเขากำลังตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีคนใหม่ และคณะบริหารของเขา
"ความรู้สึกของฉันในฐานะนักจิตวิทยา คือ ทรัมป์ชอบคนที่อวยเขาจริงๆ ดังนั้นมุมมองของเขาต่อซัคเคอร์เบิร์ก และ Meta อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว" เครปส์ กล่าว พร้อมอธิบายเสริมว่า "เขาอาจกลับไปสู่แนวคิดชาตินิยมทางเศรษฐกิจแบบอเมริกัน และคิดทำนองว่า "มาปกป้องอุตสาหกรรมอเมริกัน และดำเนินการแบนจีนต่อไป"
Meta ไม่ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็น
อ้างอิง: CNBC
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์