ฝุ่นตลบ! แคนดิเดต รมว.คลังสหรัฐมีหลายคน
ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังพิจารณาแคนดิเดตหลายคนที่เขาจะเสนอแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย 'สก็อตต์ เบสเซนต์' นำมาโดดเด่น แต่ก็ยังมีผู้ท้าชิงคนอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างแหล่งข่าวที่ได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ย.) ว่า การค้นหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง "รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง" ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังขยายวงกว้างขึ้นหลังจากที่หยุดชะงักไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวรอยเตอร์สเปิดเผยว่า ในบรรดาชื่อที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในขณะนี้ ได้แก่ "มาร์ก โรวัน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Apollo Global Management ซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น สินเชื่อเอกชนและหุ้นบริษัทเอกชนนอกตลาด โดยโรวันสืบทอดตำแหน่งต่อจาก ลีออน แบล็ก ในปี 2021
มาร์ก โรวัน
แคนดิเดตคนต่อมาคือ "เควิน วาร์ช" อดีตสมาชิกในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตรงกับรายงานของนิวยอร์กไทม์สและวอลล์สตรีทเจอร์นัลก่อนหน้านี้
ยังมีหลายชื่อที่หมุนเวียนกันเข้ามาเพื่อชิงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลใหม่ของทรัมป์ แต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
เควิน วาร์ช
ทั้งนี้ตัวเต็งคนแรกๆ คือ "จอห์น พอลสัน" นักลงทุนมหาเศรษฐี แต่ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างถึง "ความยุ่งยากในภาระผูกพันทางการเงิน" ทำให้เหลือผู้ท้าชิงตำแหน่งขุนคลังสหรัฐอีกคนคือ "สก็อตต์ เบสเซนต์" นักลงทุนคนสำคัญ ในขณะที่นาย "โฮเวิร์ด ลุตนิก" นายธนาคารก็เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเช่นกัน โดยรอยเตอร์สรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายังมีอีกหลายคนที่อาจจะได้ดำรงตำแหน่งนี้
สก็อตต์ เบสเซนต์
โฮเวิร์ด ลุตนิก
บลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า เบสเซนต์กำลังได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งในสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว แต่เขายังไม่ยอมรับ เพราะต้องการรอการตัดสินใจของทรัมป์ว่าจะเลือกใครเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังก่อน
สำหรับเควิน วาร์ช วัย 54 ปี เป็นนักวิจัยอาคันตุกะที่สถาบันฮูเวอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นสายเหยี่ยวทั้งในเรื่องเงินเฟ้อและการขาดดุลมาอย่างยาวนาน วาร์ช เคยเป็นอดีตนายธนาคารด้านการควบรวมและซื้อกิจการที่ Morgan Stanley เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจของทำเนียบขาวตั้งแต่ปี 2002 ถึง 2006 และได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในขณะนั้นให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐที่มีสมาชิก 7 คน
วาร์ช ออกจากเฟดในปี 2011 ไม่กี่เดือนหลังจากเห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานในการขยายโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดอย่างเป็นเอกฉันท์ และจากนั้นก็เปิดเผยต่อสาธารณะ ถึงข้อสงวนของเขาเกี่ยวกับการขยายงบดุลของธนาคารกลาง
ยังไม่ชัดเจนว่าแคนดิเดตรายใดจะถูกตัดออกหรือไม่ หรือมีการเพิ่มชื่ออื่นๆ อีกหรือไม่
การแย่งชิงบทบาทสำคัญ
ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถือเป็นตำแหน่งสำคัญตำแหน่งหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่ดูแลนโยบายการคลังและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น จึงถือเป็นบทบาทสำคัญตำแหน่งหนึ่งที่นักลงทุนทั่วโลกและวอลล์สตรีทจับตามองแคนดิเดตที่โดดเด่นได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชน เนื่องจากกระบวนการคัดสรรดังกล่าวกำลังเข้มข้นขึ้น
ผู้สนับสนุนเบสเซนท์ ได้แก่ ลินด์เซย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และไคล์ บาสส์ นักลงทุน ซึ่งโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเบสเซนท์จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตลาดและประชาชน
“ผมสนับสนุนเบสเซนท์ 100%” บาสส์ส่งข้อความบอกกับ รอยเตอร์ส “ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณต้องเข้าใจตลาดพันธบัตร กระแสการชำระเงินทั่วโลก ภูมิรัฐศาสตร์ ประชาชน กระแสการเงินในตลาด เงินเฟ้อ และงบประมาณของรัฐบาลกลางอย่างถ่องแท้ สก็อตต์เป็นผู้สมัคร ที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้”
บาสส์กล่าวเสริมว่าเบสเซนท์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “ละคร” ในช่วงสุดสัปดาห์เกี่ยวกับผู้ที่จะได้ตำแหน่งนี้ “เขานิ่งเงียบ และทำงานหาทางแก้ปัญหาให้กับว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” บาสส์เขียนไว้
ผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ได้แก่ แลร์รี คุดโลว์ ซึ่งเพิ่งกล่าวว่าเขาเป็น “แฟนตัวยง” ของเบสเซนท์ ซึ่งเป็น “ตัวเลือกแรก” ของเขาในการเป็นผู้นำกระทรวงการคลัง ด้านนักลงทุน สแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ ก็กล่าวว่าเบสเซนท์ อดีตเพื่อนร่วมงานของเขาที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซรอส เป็น “คนเดียวที่ผมรู้จักซึ่งไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในตลาดเท่านั้น แต่ยังคล่องแคล่วและมีความรู้แตกฉานในแวดวงวิชาการ”
สตีฟ มัวร์ นักเศรษฐศาสตร์อนุรักษ์นิยมและที่ปรึกษาทรัมป์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาสนับสนุนเบสเซนต์อย่างมาก เนื่องจากเบสเซนต์มีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวฝ่ายขวาของวอชิงตัน ที่ผลักดันการยกเลิกกฎระเบียบและการลดภาษีเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
มัวร์กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “ผมคิดว่านักอนุรักษ์นิยมตลาดเสรีส่วนใหญ่สนับสนุนสก็อตต์ เบสเซนต์”
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ที่ปรึกษาระดับสูงสองคนของทรัมป์ ได้แก่ "อีลอน มัสก์" ซีอีโอของเทสลา และ "โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จู เนียร์" ซึ่งเป็นผู้ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ เห็นด้วยกันว่า ลุตนิก ควรได้ตำแหน่งนี้ โดยโพสต์ข้อความสนับสนุนบนโซเชียลมีเดีย แต่ทีมงานเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นในทันที
เมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ยังพิจารณาจะเลือกลุตนิกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจอีกตำแหน่ง ซึ่งอาจเป็นตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์" แหล่งข่าวที่ได้รับข้อมูลในเรื่องนี้บอกกับรอยเตอร์ส และยังกล่าวอีกว่า "โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์" อดีตผู้แทนการค้าสหรัฐของทรัมป์ กำลังได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งในกระทรวงพาณิชย์เช่นกัน