เกาหลีใต้เร่งผลิตอาวุธเตรียมส่งยูเครน
โรงงานผลิตอาวุธของบริษัทฮันวาแอโรสเปซในเมืองจางวอนทางภาคใต้ของเกาหลีใต้กำลังทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่อากาศขั้นสุดท้ายอย่างขมักเขม้น เป็นไปได้ว่าอาจส่งไปให้ยูเครน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เกาหลีใต้มีนโยบายมานานแล้วว่า จะไม่ส่งอาวุธไปยังพื้นที่ที่ยังมีความขัดแย้ง แต่นับจากหน่วยข่าวกรองกล่าวหาเมื่อเดือนก่อนว่า เกาหลีเหนือส่งทหารหลายพันนายไปช่วยรัสเซียสู้รบกับยูเครน เกาหลีใต้จึงเตือนว่าตนอาจเปลี่ยนแนวทาง
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงสิ่งแรกที่จะส่งไปให้ยูเครนน่าจะเป็น “ชองกุง” หรือ ลูกศรแห่งท้องฟ้า ระบบตรวจจับขีปนาวุธแบบไอรอนโดมที่เกาหลีใต้ผลิตเอง
จัง ซังยอง ผู้จัดการอาวุโส บริษัทฮันวาแอโรสเปซ บริษัทคู่สัญญาผลิตอาวุธใหญ่สุดของเกาหลีใต้ยอมรับ
“ระบบชองกุงอาจพิจารณาได้ว่าคล้ายกับระบบขีปนาวุธแพตทริออตของสหรัฐ”
ยูเครนนั้นพึ่งพาระบบป้องกันทางอากาศของตะวันตกเป็นหลัก โดยเฉพาะแพตทริออตของสหรัฐเพื่อปกป้องประเทศจากการถล่มด้วยขีปนาวุธรัสเซีย และเรียกร้องมาตลอดให้ตะวันตกส่งขีปนาวุธมาให้มากขึ้น
รัฐบาลวอชิงตันกล่าวในเดือน มิ.ย.ว่า จะส่งมอบให้ยูเครนก่อนประเทศอื่นที่สั่งซื้อ
แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สำหรับเกาหลีใต้ที่ในทางเทคนิคยังถือว่าทำสงครามอยู่กับเกาหลีเหนือ และผลิตอาวุธมาอย่างต่อเนื่องโดยที่บริษัทอาวุธตะวันตกไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย อาจสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก
“ในฐานะชาติที่แตกแยก เราก่อตั้งและปฏิบัติตามมาตรฐานระดับชาติอย่างเป็นระบบ จากการพัฒนาอาวุธไปจนถึงควบคุมคุณภาพ โดยคุณภาพ ขีดความสามารถ และซัพพลายเชนการผลิตสินค้าของเรามีความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เหล่านั้น” จังกล่าว
ด้าน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อกยอล เคยกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่ว่าเกาหลีใต้จะตัดสินใจช่วยยูเครนโดยตรงหรือไม่อย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับ “ระดับความเกี่ยวข้องของเกาหลีเหนือ” รัฐบาลโซล “ไม่ตัดความเป็นไปได้ในการจัดหาอาวุธให้” และถ้าเกาหลีใต้จัดหาอาวุธให้ยูเครนจริง ชุดแรกก็จะเป็นอาวุธในการป้องกันตนเอง
ฮัน กวอนฮี จากสมาคมอุตสาหกรรมกลาโหมเกาหลีเผยกับเอเอฟพีว่า เพื่อป้องกันขีปนาวุธระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน รัฐบาลเคียฟต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มอย่างเร่งด่วน
“การตอบโต้จำเป็นอยู่เองที่แนวหลังต้องมั่นคง ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไมเคียฟถึงได้ใช้โดรนโจมตีภายในรัสเซียรวมถึงกรุงมอสโกด้วย พวกมันจะช่วยยูเครนสกัดการรุกของรัสเซียด้วยการตรวจจับโดรนและขีปนาวุธที่บินลึกเข้ามาในดินแดนยูเครน” ฮันกล่าวและว่า สิ่งนี้จะช่วยเหลือเคียฟได้อย่างมหาศาล ควบคู่กับท่าที่ล่าสุดจากสหรัฐที่อนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีภายในรัสเซียได้
เกาหลีใต้นั้นพร้อมรบเสมอนับตั้งแต่สงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการหยุดยิง ขณะที่ฮันวาแอโรสเปซ คู่สัญญากลาโหมรายใหญ่สุดเคยถูกนักวิเคราะห์มองว่าล้าหลังเพราะไปเน้นที่อาวุธภาคพื้นดินที่ตอนนี้กลับมีความต้องการสูงมาก
ยิ่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงในยุโรป ยิ่งเป็นประโยชน์อย่างมากให้กับบริษัทเกาหลีใต้รายนี้ ที่มีกำไรจากการปฏิบัติการพุ่งขึ้น 450% ในไตรมาสล่าสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 343.3 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ฮันวาแอโรสเปซได้ลงนามข้อตกลงอาวุธครั้งใหญ่กับหลายๆ ประเทศ อาทิ โปแลนด์ โรมาเนีย ส่งออกปืนใหญ่ K9 และขีปนาวุธชุนมู
รัฐบาลโซลใฝ่ฝันมานานแล้วว่าจะเป็นผู้ส่งออกอาวุธระดับต้นๆ ของโลก โดยหมายตาเป็นอันดับสี่ถัดจากสหรัฐ รัสเซีย ฝรั่งเศส ซึ่งงานวิจัยอุตสาหกรรมอาวุธชี้ว่าตอนนี้เป็นไปได้แล้ว
เกาหลีใต้ขายกระสุนปืนใหญ่ 155 มม.ให้วอชิงตัน แต่ด้วยข้อตกลง “ผู้ใช้รายสุดท้าย” เท่ากับว่ากองทัพสหรัฐเป็นผู้ใช้กระสุนนี้ และตอนนั้นสหรัฐต้องจัดหากระสุนของตนเองไปให้เคียฟ
ตอนนี้อาวุธอื่นของฮันวาที่อาจเปลี่ยนสมดุลของสงครามยูเครนได้คือขีปนาวุธนำวิถีชุนมู
“ด้วยพิสัยไกลถึง 290 กิโลเมตร ชุนมูสามารถโจมตีเป้าหมายในเปียงยางได้ถ้ายิงจากพื้นที่ชายแดนในเกาหลีใต้” ชเว จีอิล อาจารย์ด้านการทหารศึกษามหาวิทยาลัยซังจีกล่าว
“สิ่งที่ยูเครนต้องการอย่างเร่งด่วนเพื่อพลิกสงครามให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์คืออาวุธในการรุกรบ เช่น ขีปนาวุธชุนมูและปืนใหญ่ K9 ที่สามารถสร้างความเสียหายกับศัตรูได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าเกาหลีเหนือเกี่ยวข้องกับสงครามนี้โดยตรง เกาหลีใต้อาจพิจารณาส่งอาวุธร้ายแรงไปให้เพิ่มเติมจากอาวุธป้องกันตนเอง” ชเวกล่าวเสริม