ทรัมป์ตั้ง 2 ตำแหน่งสำคัญทีมเศรษฐกิจ 'สภาเศรษฐกิจแห่งชาติ-ผู้แทนการค้า'
เผย 2 ว่าที่ตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจในครม. ทรัมป์ 2.0 เสนอ 'เควิน แฮสเซตต์' คุมสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ให้ 'เจมีซัน เกรียร์' ลูกศิษย์โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ เป็นผู้แทนการค้า
ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ใกล้ครบถ้วนแล้วหลังจากที่ทรัมป์เสนอชื่ออีก 2 ตำแหน่งสำคัญในวันนี้ (27 พ.ย.) โดยเสนอให้ "เควิน แฮสเซตต์" (Kevin Hassett) เป็นผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และให้ 'เจมีซัน เกรียร์' (Jamieson Greer) เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนับเป็นตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจล่าสุด หลังจากที่ทรัมป์เพิ่งประกาศว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรกับจีน 10% และแคนาดากับเม็กซิโก 25% ไปเมื่อวันก่อน
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ชื่นชมบุคคลทั้งสองคน ซึ่งจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อวาระเศรษฐกิจของเขาหลายเรื่อง โดยตำแหน่งของแฮสเซตต์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับแผนการ "ลดภาษี" ของทรัมป์ ในขณะที่เกรียร์นั้นหากได้รับการรับรองจากวุฒิสภา คาดว่าจะมีส่วนร่วมโดยตรงกับนโยบายการ "ขึ้นภาษีศุลกากร" ของทรัมป์
แฮสเซตต์ "จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ครอบครัวชาวอเมริกันฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อในยุครัฐบาลไบเดน เราจะร่วมกันพลิกโฉมและปรับปรุงข้อมูลการลดหย่อนภาษีให้ดีขึ้น” ทรัมป์ระบุในแถลงการณ์
แฮสเซตต์ยังเป็นอดีตสมาชิกทำเนียบขาว ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์และประธานคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เขาเป็นผู้ปกป้องนโยบายด้านภาษีของทรัมป์อย่างแข็งขัน ซึ่งทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีต่างๆ ที่กำลังจะหมดอายุลงในปีหน้าออกไป
ในขณะที่เกรียร์จะเน้นไปที่ "การลดการขาดดุลทางการค้าจำนวนมหาศาลของประเทศ การปกป้องการผลิต เกษตรกรรม และบริการของอเมริกา รวมถึงการเปิดตลาดส่งออกไปยังทุกหนทุกแห่ง"
ทั้งนี้ เกรียร์ถือเป็นศิษย์ก้นกุฏิของ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ (Robert Lighthizer) อดีตผู้แทนการค้าของสหรัฐในยุคทรัมป์ 1.0 ซึ่งในขณะนั้น เกรียร์ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของไลท์ไฮเซอร์ และผ่านงานขึ้นภาษีศุลกากรมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับ "จีน" ในรอบแรกมาแล้ว
