ส่องแนวโน้ม 'เงินเดือน' 6 ชาติอาเซียน 2568 'ไทย' โตต่ำสุดเป็นรองแค่สิงคโปร์
เปิดแนวโน้มเงินเดือนปี 2568 ใน 6 ประเทศอาเซียนพบมีแนวโน้มเชิงบวก แต่ 'ไทย' จ่อขึ้นเงินเดือนน้อยที่สุดเป็นรองแค่สิงคโปร์ พบปัญหามีตั้งแต่จีดีพีประเทศโตต่ำ ไปจนถึงข้อจำกัดเรื่อง 'ภาษา'
ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลายบริษัทเริ่มเปิดเผยแนวโน้มเงินเดือนสำหรับปีหน้า 2568 กันแล้ว โดยล่าสุดบริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับงานและอาชีพ Aon ได้สำรวจเรื่องการขึ้นเงินเดือนใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่า แนวโน้มเงินเดือนในปีหน้าจะเพิ่มสูงขึ้น
จากการสำรวจบริษัทมากกว่า 950 แห่ง ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. พบว่า นอกจากแนวโน้มจะขึ้นเงินเดือนเพิ่มแล้ว ธุรกิจในภูมิภาคยังมีแนวโน้มที่จะ "รักษาหรือเพิ่มจำนวนพนักงาน" โดยรวมด้วย
ทว่าจุดที่น่าสังเกตคือ "ความล้มเหลวในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูง" ได้กลายมาเป็นความเสี่ยงหลักสำหรับองค์กรต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น โดยขยับจากความเสี่ยงอันดับ 9 ในปี 2564 ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ในปี 2266 ตามการสำรวจการจัดการความเสี่ยงระดับโลกของ Aon
"อัตราการขึ้นเงินเดือนในปี2568 คาดว่าจะยังคงสูงกว่าเมื่อเทียบกับ 2567 และเรายังคาดการณ์ถึงสภาพแวดล้อมที่เงินเฟ้ออ่อนตัวลงและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงต่อไป" ราหุล จาวลา หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่ายโซลูชันทาเลนต์สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Aon กล่าวกับซีเอ็นบีซี
"ความหมายที่แท้จริงก็คือ แม้จะอยู่ในภาวะที่เงินเฟ้ออ่อนตัวลง แต่การขึ้นเงินเดือนก็ยังคงเข้มข้นขึ้น ซึ่งหมายความว่ามีความแตกต่างของอุปทานและอุปสงค์ของบุคลากรที่มากกว่าเงินเฟ้อ"
ผู้บริหาร Aon กล่าวว่านอกจากปัจจัยเงินเฟ้อแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะสูงในภูมิภาคนี้ โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นแซนด์บ็อกซ์สำหรับบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก เช่น ในสิงคโปร์ สำหรับการเปิดบริษัท จึงดึงดูดเงินทุนได้มาก และทำให้เกิดความต้องการบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อรองรับการเติบโตนี้
ทางด้าน เฉิง วัน ฮวา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บุคลากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Aon กล่าวด้วยว่า ยังมีปัจจัยเรื่องความเร็วของพัฒนาการทางเทคโนโลยีด้วย เช่น Prompt engineering อาจไม่ใช่ทักษะที่จำเป็นเมื่อสองปีก่อน แต่ตอนนี้ด้วย ChatGPT จึงถือเป็นทักษะใหม่ที่มีความต้องการในปัจจุบัน
สำหรับแนวโน้มการขึ้นเงินเดือนปี 2568 ใน 6 ประเทศอาเซียน มีดังนี้ (เรียงจากมากสุด)
- เวียดนาม
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 7.5%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 6.4%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 6.7%
- อินโดนีเซีย
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 7.5%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 6.4%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 6.7%
- ฟิลิปปินส์
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 5.2%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 5.4%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 5.8%
- มาเลเซีย
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 5%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.9%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 5%
- ไทย
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 4.7%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.4%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 4.7%
- สิงคโปร์
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 4%
อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.2%
อัตราที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามงบประมาณปี 2568: 4.4%
Aon ระบุว่าการปรับขึ้นเงินเดือนในอาเซียนยังแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม โดยภาคเทคโนโลยีและการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 5.8% ส่วนภาคค้าปลีก ที่ปรึกษา ธุรกิจและบริการชุมชน วิทยาศาสตร์ชีวภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.4%
ส่วนงานในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน (4.9%) บริการทางการเงิน (4.8%) และขนส่ง (4.1%) อยู่ในกลุ่มล่างสุดของการปรับขึ้นเงินเดือน
สิ่งที่น่าสังเกตคือ การสำรวจยังพบอีกว่าการปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณใน "สิงคโปร์" และ "ไทย" คาดว่าจะต่ำกว่าในภูมิภาคโดยรวมในปี 2568 ที่ 4.4% และ 4.7% ตามลำดับ
“โดยทั่วไปแล้ว การปรับขึ้นเงินเดือนในสิงคโปร์จะตามหลังตลาดอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นตลาดที่พัฒนาแล้ว อัตราเงินเฟ้อจึงมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เติบโตในอัตราที่เร็วกว่า” จาวลากล่าว และเสริมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราการเติบโตทางจีดีพีของสิงคโปร์ที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ด้วย
ในทางกลับกัน "ประเทศไทย" มีการเติบโตทางเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะกลุ่มทาเลนต์ในประเทศไทย “มีความคล่องตัวน้อยกว่าในแง่ของภาษาและการจัดสรรแรงงาน” จึงมีแนวโน้มที่จะวนอยู่แค่ในตลาดของตนเอง