Cargill เตรียมเลย์ออฟใหญ่กว่า 8,000 ตำแหน่งทั่วโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างบันทึกภายในของบริษัทว่า "คาร์กิลล์ อิงค์" (Cargill Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าเกษตรรายใหญ่จากสหรัฐ เตรียมจะเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกราว 5% จากพนักงานทั้งหมด 1.64 แสนคน โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ปี 2030 เนื่องจากผลกำไรบริษัทไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ 

คาร์กิลล์ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับบริษัทโภคภัณฑ์รายใหญ่อย่าง  Bunge Global SA และ Archer-Daniels-Midland Co. เผชิญรายได้ลดลงหลังจากปริมาณพืชผลที่มากขึ้นฉุดให้ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลง แรงกดดันยังรุนแรงขึ้นจากปัญหาจำนวนฝูงวัวในสหรัฐที่ลดจำนวนลงเหลือน้อยสุดในรอบ 7 ทศวรรษ ทำให้กระทบบริษัทโดยตรงหลังจากคาร์กิลล์มุ่งเรื่องเนื้อวัวตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมา จนขึ้นเป็นผู้แปรรูปเนื้อวัวสหรัฐรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3

"การลดจำนวนพนักงานส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในปีนี้ โดยจะเน้นที่การปรับโครงสร้างองค์กรของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดลำดับขั้นต่างๆ ออกไป ขยายขอบเขตและความรับผิดชอบของผู้จัดการ และลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน" ไบรอัน ไซค์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของคาร์กิลล์ระบุ
 

ทั้งนี้ คาร์กิลล์ได้ส่งสัญญาณแจ้งพนักงานตั้งแต่ต้นปีนี้มาแล้วว่า บริษัทจะลดจำนวนหน่วยธุรกิจจาก 5 หน่วยเหลือ 3 หน่วย หลังจากมีหน่วยธุรกิจไม่ถึง 1 ใน 3 ที่สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ในปีงบประมาณ 2024 นอกจากนี้ บริษัทยังเลิกจ้างพนักงานด้านเทคโนโลยีประมาณ 200 คนในสาขาต่างๆ ด้วย

ฮาเวียร์ บลาส จากบลูมเบิร์ก โอพิเนียน กล่าวว่า กำไรของบริษัทลดลงเหลือ 2.48 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2015-16 และยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกำไรสุทธิสูงสุดที่เคยทำได้ในปีงบประมาณ 2021/22 ซึ่งอยู่ที่ราว 6.7 พันล้านดอลลาร์