จีนตอบโต้สหรัฐทันควัน ห้ามส่งออกแร่สำคัญ 'แกลเลียม-เจอร์เมเนียม'

จีนตอบโต้สหรัฐทันควัน ห้ามส่งออกแร่สำคัญ 'แกลเลียม-เจอร์เมเนียม'

จีนตอบโต้สหรัฐแบบ 'ตาต่อตา ฟันต่อฟัน' ประกาศห้ามส่งออกแร่ 'แกลเลียม-เจอร์เมเนียม' ที่ใช้ในการผลิตของอุตสาหกรรมไฮเทคและการทหารไปสหรัฐ หลังวอชิงตันเพิ่มดีกรีกดดันจีน ห้ามส่งออกชิปหน่วยความจำ HBM

กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงวานนี้ว่า จีนจะไม่อนุญาตให้ส่งออกแร่เจอร์เมเนียม, แกลเลียม, พลวง และวัสดุที่มีความแข็งสูงพิเศษ ไปยังสหรัฐอีกต่อไป นอกจากนี้ จีนจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการใช้งานขั้นสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use Item) ที่เกี่ยวข้องกับแกรไฟต์ เพื่อตอบโต้มาตรการล่าสุดของสหรัฐที่เพิ่มความเข้มงวดต่อการเข้าถึงชิปและเครื่องมือผลิตชิปล้ำสมัยของจีน

มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ของจีนในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนหมดวาระโดยออกมาตรการฉบับใหม่ที่จำกัดการขายชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) ให้กับจีน และเพิ่มกฎระเบียบต่างๆ ที่เข้มงวดขึ้น เพื่อสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีชิปล้ำสมัย เนื่องจากกังวลว่าจีนอาจนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้พัฒนากองทัพของตนเอง  

สำหรับแร่และโลหะต่างๆ ที่จีนประกาศระงับการส่งออกไปยังสหรัฐในครั้งนี้ ล้วนเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตสิ่งของแทบจะทุกสิ่ง ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงดาวเทียม และแว่นตาสำหรับมองเห็นเวลากลางคืน 

ทั้งนี้ จีนเป็นซัพพลายเออร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับแร่หายากหลายสิบชนิด ซึ่งสหรัฐเองกังวลเรื่องการผูกขาดแร่หายากของจีนมากขึ้นหลังจากที่จีนเริ่มจำกัดการส่งออกแกลเลียมและเจอร์เมเนียมตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางความพยายามหาแหล่งอุปทานทางเลือกใหม่ทดแทนจีน โดยราคาแกลเลียมพุ่งขึ้นราว 80% และเจอร์เมเนียมพุ่งขึ้นเป็นสองเท่าในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทรายใหญ่ผู้รับซื้อแร่เหล่านี้ เช่น Globalwafers Co., Lumentum Holdings Inc. และ Coherent Corp. ต่างคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น เนื่องจากมีปริมาณสินค้าคงคลังสำรองไว้มากเพียงพอ และคาดว่าจะสามารถหาแหล่งทดแทนรายอื่นได้ โดยตลอดทั้งปี 2024 ปริมาณการส่งออกแกลเลียมและเจอร์เมเนียมจากจีนไปสหรัฐถูกบันทึกเป็นศูนย์ หรือเท่ากับว่าในทางปฏิบัติจริง จีนระงับการส่งออกมานับปีแล้ว และสหรัฐก็มีสินค้าสำรองมากพอหรือหาแหล่งทดแทนอื่นๆ เตรียมไว้แล้ว