'สภาสหรัฐ’ จ่อผ่านงบ 3 พันล้านดอลล์ รื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมจากจีนทิ้ง

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67 ว่า รัฐสภาสหรัฐเตรียมลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี (ร่าง พ.ร.บ.) สำหรับกระทรวงกลาโหม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ค่าใช้จ่ายจำนวน 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริษัทโทรคมนาคมของสหรัฐถอดถอนอุปกรณ์ที่ผลิตโดยบริษัทจากจีนอย่าง  Huawei และ ZTE ออกจากเครือข่ายไร้สายของประเทศ

ทั้งนี้ รายละเอียดของร่างกฎหมายมีความยาว 1,800 หน้า ซึ่งประกอบด้วยข้อกำหนดเพิ่มเติมที่มุ่งเป้าหมายไปที่ประเทศจีน เช่น

1. การกำหนดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับความพยายามของจีนในการหลีกเลี่ยงระเบียบความมั่นคงแห่งชาติ
2. การประเมินความสามารถทางเทคโนโลยีชีวภาพของจีนในปัจจุบัน

คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ระบุว่า การถอดถอนอุปกรณ์ที่ “ไม่ปลอดภัย” คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 4.98 พันล้านดอลลาร์ ทว่าก่อนหน้านี้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณไปเพียง 1.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการ "ถอดถอน และเปลี่ยนแปลง" หรือ Rip and Replace Program.

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า รัฐสภาสหรัฐเร่งผลักดันให้ประเทศพันธมิตรรื้อถอนอุปกรณ์ของหัวเว่ย และบริษัทเทคโนโลยีจีนออกจากเครือข่ายไร้สายอย่างหนักเช่นเดียวกัน

เจสสิก้า โรเซนวอร์เซิล ประธาน FCC เรียกร้องต่อรัฐสภาสหรัฐให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเร่งด่วน โดยระบุว่า โครงการเปลี่ยนอุปกรณ์ในเครือข่ายของผู้ให้บริการ 126 ราย อยู่ในสภาวะขาดงบประมาณถึง 3.08 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคในพื้นที่ชนบท

เธอเตือนว่าการขาดแคลนงบประมาณอาจทำให้เครือข่ายในพื้นที่ชนบทบางแห่งต้องปิดตัวลง ซึ่งอาจตัดการให้บริการในบางพื้นที่ และอาจคุกคามระบบบริการฉุกเฉิน 911

ด้าน ทิม โดโนแวน ประธาน และผู้อำนวยการสมาคมผู้ให้บริการรายย่อย (CCA) กล่าวสนับสนุนการท่าทีดังกล่าวว่า

"มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐสภาต้องอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินการตามข้อกำหนดในการถอด-เปลี่ยนอุปกรณ์และบริการ ขณะเดียวกันก็รักษาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับประชาชนหลายสิบล้านคน"

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 รัฐสภาได้สั่งให้ FCC กำหนดให้บริษัทโทรคมนาคมของสหรัฐที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลยกเลิกการใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีนออกจากเครือข่าย และในปี 2566 ทำเนียบขาวร้องของบประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อโครงการข้างต้น 

ท้ายที่สุด มาเรีย คานท์เวล ประธานคณะกรรมาธิการสามัญว่าด้วยกิจการพาณิชย์ของวุฒิสภา กล่าวว่า งบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าว และเม็ดเงินอีกกว่า 500 ล้านดอลลาร์สำหรับศูนย์เทคโนโลยีประจำภูมิภาคจะได้รับการจัดสรรจากเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่แบบครั้งเดียวจาก FCC สำหรับคลื่นความถี่ขั้นสูง AWS-3 เพื่อรองรับความต้องการคลื่นความถี่ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค

 

 

อ้างอิง: Reuters

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์