มิจฉาชีพใช้ ‘ทองคำ’ ฟอกเงิน ซ่อนเร้นความผิด ท่ามกลางกระแสทองฟีเวอร์
‘ทองคำ’ ที่เปล่งประกายกลับกลายเป็นเงาของความมืด เมื่อเหล่ามิจฉาชีพฉวยโอกาสจากกระแส ‘ทองคำฟีเวอร์’ หลอกลวงประชาชนให้ตกเป็นเหยื่อ รวมถึงใช้ฟอกเงินและซ่อนเร้นความผิดของตนเอง
ท่ามกลางกระแส “ทองคำฟีเวอร์” ที่ส่งให้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ในอีกด้านหนึ่ง ปรากฏการณ์นี้กลับเปิดช่องให้มิจฉาชีพฉกฉวยโอกาส “หลอกลวงคน” และใช้ทองคำที่มั่นคงนี้เป็น “สินทรัพย์ฟอกเงิน”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ร้านค้าเครื่องประดับทั่วจีนต่างประสบกับเหตุการณ์ที่ดูน่าฉงน เมื่อได้รับคำสั่งซื้อทองคำแท่งขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากจากลูกค้าที่ต้องการส่งทองคำไปยัง “ที่อยู่ห่างไกล” ทั่วประเทศ
มีกรณีหนึ่ง มิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นคนรักออนไลน์ ชักชวนหญิงสาวในเมืองหางโจว ทางตะวันออกของจีน ให้ซื้อทองคำแท่งมูลค่า 19 ล้านหยวนหรือราว 88 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้รับทองคำ เงิน หรือแม้แต่คนรักปลอม ๆ คนนั้นเลย
ทางฝั่งมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน อีกหนึ่งเหยื่อผู้หญิงถูกหลอกลวงให้โอนเงิน 38,000 หยวนหรือราว 1.7 แสนบาท โดยบัญชีออนไลน์นี้ได้แอบอ้างเป็นญาติของเธอ เพียงแค่ห้านาทีหลังจากโอนเงิน กลุ่มอาชญากรฟอกเงินได้ใช้เงินเหล่านั้นซื้อทองคำไปแล้ว
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการหลอกลวงที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงจีนได้เน้นย้ำในปีนี้ โดยได้ออกประกาศเตือนประชาชนว่า กลุ่มมิจฉาชีพกำลังใช้ทองคำในการโอนทรัพย์สินและฟอกเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพยังได้วางแผนการที่ซับซ้อนขึ้น โดยการจ้างวานบุคคลภายนอกให้ทำหน้าที่รับ-ส่งทองคำ ทั้งจากร้านค้าหรือบ้านของเหยื่อ เพื่อเป็นการอำพรางตัวตนของผู้กระทำผิด โดยมอบค่าตอบแทนให้สำหรับงานนี้ ซึ่งอาจทำให้บุคคลเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ในการกระทำผิดทางกฎหมาย
ด้วยภาวะเศรษฐกิจซบเซาและการขาดแคลนโอกาสทางการเงินในจีน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากหันไปแสวงหาช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งเปิดช่องให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น จนจำนวนคดีฉ้อโกงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา “ทองคำ” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ในปีนี้ โดยข้อมูลจากสภาทองคำโลกระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองในจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี
สำหรับมิจฉาชีพ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ เนื่องจากยากที่จะตรวจสอบที่มา และเป็นวิธีการฟอกเงินที่ง่าย โดยสามารถรายงานรายได้จากการขายทองคำเป็นรายได้ที่ถูกกฎหมาย
ความกลัวตกรถ ขาดความรู้ ทำให้ถูกหลอกง่ายขึ้น
“โรคระบาดและเศรษฐกิจถดถอย ทำให้การฉ้อโกงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสิ้นหวังและความต้องการเอาชนะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ” ไมเคิล เลวี (Michael Levi) ศาสตราจารย์ด้านอาชญาวิทยาจากมหาวิทยาลัย Cardiff ในเวลส์กล่าว เขาเสริมอีกว่า “ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาในจีนได้ทวีความสิ้นหวังของผู้คน เนื่องจากพวกเขาเห็นเงินและความฝันของตนหายไป”
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การฉ้อโกงเพิ่มขึ้นคือ ความกลัวตกรถ หากไม่รีบลงทุน และการขาดความรู้ทางการเงิน “ผู้คนคิดว่าการลงทุนเป็นวิธีเดียวที่จะร่ำรวย ซึ่งทำให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่ายขึ้น” เลวีกล่าว
ตามรายงานของธนาคารกลางจีน จำนวนบุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฟอกเงินในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า จาก 13,900 คนในปี 2019 เป็นประมาณ 69,200 คนในปี 2022
นอกจากนี้ การระบาดของคดีฟอกเงินในจีน ยังทำให้ความต้องการทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟู่ เฉิงเฉิน (Fu Chengchen) ทนายความผู้มีประสบการณ์ในวงการนี้เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขาได้รับคำขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา
“ทองคำมีมูลค่าสูง พกพาสะดวก และมีความคล่องตัว” ฟู่ให้ความเห็น “เมื่อเศรษฐกิจไม่มั่นคง นักลงทุนและอาชญากรมักจะแปลงเงินทุนของตนเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่มากขึ้น และช่วยให้โจรนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดมาซ่อนเร้นได้ง่ายขึ้นด้วย”
อ้างอิง: bloomberg