‘พีพีพี’ ประชุมทบทวนจุดยืน หนุน-ค้าน ‘ยุน ซอกยอล’ เผชิญถอดถอนครั้งที่2

แม้ว่า ฮัน ดง ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) กล่าวยืนยันวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า พรรคยังคงยืนยันคัดค้านการถอดถอนประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หรืออิมพีชเมนท์ นายยุน ซอกยอล ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้

แต่ในเช้าวันนี้ สมาชิกรัฐสภาพรรคพีพีพียังคงเคลื่อนไหว และได้มีการเรียกประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนจุดยืนหรือไม่ ในการคัดค้านฝ่ายค้าน ถอดถอนยุน ซอกยอล

อัน ชอลซูม สมาชิกรัฐสภาพรรคพีพีพี หนึ่งนายผู้สนับสนุนให้ถอดถอนยุน โพสต์ในเฟสบุ๊ควันนี้ว่า จะลงคะแนนถอดถอน เพื่อประโยชน์ในการรักษา เสถียรภาพการดำรงชีพ เศรษฐกิจและการทูตเพื่อประชาชนเกาหลีใต้

พรรคฝ่ายค้านวางแผนจะลงมติถอดถอนประธานาธิบดี ในเวลา 16.00 น. หรือเวลาประมาณ 15.00 น. ในวันนี้

ยุนต้องเผชิญการโหวตถอนถอนออกจากตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ยุนตั้งใจจะใช้อำนาจกฎอัยการศึกจับกุม และควบคุมตัวกลุ่มนักการเมืองที่เห็นต่าง

การลงคะแนนเสียงถอดถอนประธานาธิบดี ต้องใช้ 200 เสียงจากทั้งหมด 300 เสียง นั่นหมายความว่าสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่มีอยู่ 172 ที่นั่ง ต้องการเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลอีก 8 เสียงเท่านั้น เพื่อผ่านมติดังกล่าว

พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน ซึ่งเป็นสายอนุรักษ์นิยม ได้ประกาศคว่ำบาตรการลงมติถอดถอนที่มีขึ้นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน 

ขณะที่บรรกาศหน้ารัฐสภาเกาหลีใต้ มีกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ ถอดถอน ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ รวมตัวกันในวันเสาร์ (14 ธ.ค) ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนยุน ได้มีนัดเคลื่อนไหวใจกลางกรุงโซล ลุ้นผลโหวตถอดถอนครั้งที่ 2

บรรดาคนดังในวงการเคป๊อปบางส่วนได้ออกมากล่าวโจมตีประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ท่านประกาศจะมอบอาหารและน้ำ สนับสนุนให้กับผู้เข้าร่วมการประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนยุน ออกจากตำแหน่ง

ถ้ายุนถูกถอดถอน เขาจะสูญเสียอำนาจ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาและมีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งหรือแต่งตั้งให้กลับมาอีกครั้ง ในระหว่างนี้ ฮัน ด็อกซู นายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่รักษาการแทนประธานาธิบดี

หากศาลฯ สั่งให้ยุนออกจากตำแหน่ง หรือกรณีที่เขาลาออกเอง หลังจากนั้นจะต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 60 วัน

อย่างไรก็ตาม ยุน ไม่ได้แสดงท่าทีเต็มใจจะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ยุนได้ให้คำมั่นว่า “จะต่อสู้ถึงที่สุด” และระบุว่ากฎอัยการศึกคือความจำเป็นเพื่อเอาชนะทางตันทางการเมือง และปกป้องประเทศจากนักการเมืองในประเทศที่กำลังบ่อนทำลายประชาธิปไตย

 

อ้างอิง : CNA