สปอร์ตไลท์ ส่อง ‘เจลีก’ ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คน ในเวลาแค่ 5 ปี

สปอร์ตไลท์ ส่อง ‘เจลีก’  ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คน ในเวลาแค่ 5 ปี

‘เจลีก’ ก้าวสู่เวทีโลก ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คนสำเร็จ ลุ้นตั๋วไปแข่ง ’ฟุตบอลโลกปี 2026‘ หลัง ‘ชัยชนะ‘ และความได้เปรียบคือใบเบิกทาง สู่บททดสอบความแข็งแกร่ง ในรายการ ‘ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025‘

“เจลีก” (Japan Professional Football League) ฤดูกาล 2024 ของญี่ปุ่นได้จบลงไปแล้ว แต่วงการฟุตบอลญี่ปุ่นกำลังก้าวกระโดด เมื่อจำนวนนักเตะที่ไปค้าแข้งในลีกชั้นนำของยุโรปพุ่งทะลุ 100 คนภายในเวลาเพียง 5 ปี และความสำเร็จของนักเตะทีมชาติชายญี่ปุ่นที่ใกล้จะคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ทำให้ตลาดนักเตะญี่ปุ่นร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม 

สปอร์ตไลท์ ส่อง ‘เจลีก’  ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คน ในเวลาแค่ 5 ปี

สโมสรต่างประเทศพร้อมทุ่มเงินและโอกาสเพื่อดึงตัวนักเตะชาวญี่ปุ่นไปร่วมทีม โดยเฉพาะหลังจบฤดูกาล 2024 ของเจลีก คาดว่าจะมีดีลการย้ายทีมเกิดขึ้นอีกมากในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวนี้

ฟุตบอลญี่ปุ่นก้าวสู่เวทีโลก

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นกำลังเกิดขึ้น จำนวนนักฟุตบอลทั้งชายและหญิงที่ไปค้าแข้งในลีกหลักของยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2024-25 ที่มีนักฟุตบอลชายเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับฤดูกาล 2019-20 ส่วนนักฟุตบอลหญิงก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเพียงไม่กี่คนเป็นประมาณ 30 คนในช่วงเวลาเดียวกัน

สปอร์ตไลท์ ส่อง ‘เจลีก’  ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คน ในเวลาแค่ 5 ปี

หากย้อนกลับไปราวปี 2000 เราจะเห็นเพียงนักเตะระดับตำนานอย่าง ฮิเดโตชิ นากาตะ และชุนสุเกะ นาคามูระ ที่กล้าก้าวออกไปค้าแข้งในต่างแดน แต่ในปัจจุบัน ภาพนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในทีมชาติชุดใหญ่ หรือแม้แต่นักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งจบการศึกษาจากมัธยมปลาย ก็กล้าที่จะก้าวออกไปสู่เวทีโลกมากขึ้น

นักเตะญี่ปุ่นราคาดี คุณภาพดี

“บุนเดสลีกา” ของเยอรมนีได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นในปี 2010 อย่าง ชินจิ คากาวะ และชินจิ โอกาซากิ ที่ได้ย้ายไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของเยอรมนี

ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่สโมสรฟุตบอลในยุโรปเริ่มให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินมากขึ้น โดยมีการนำกฎระเบียบใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในการซื้อนักเตะ ทำให้สโมสรต่างๆ ต้องมองหานักเตะที่มีศักยภาพสูงแต่มีค่าตัวที่ไม่แพงนัก

นักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นในเวลานั้นถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสโมสรในบุนเดสลีกา เนื่องจากมีฝีเท้าที่ดี และค่าตัวที่ค่อนข้างย่อมเยาเมื่อเทียบกับนักเตะจากลีกอื่นๆ 

นอกจากนี้ สโมสรเจลีกหลายแห่งก็ให้การสนับสนุนให้นักเตะดาวรุ่งของตนได้ไปค้าแข้งในต่างประเทศ โดยยอมปล่อยตัวนักเตะออกไปแบบไม่มีค่าตัว หรือมีค่าตัวที่ต่ำมาก เพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะได้พัฒนาฝีเท้าและสร้างชื่อเสียง จนทำให้บุนเดสลีกากลายเป็นเหมือนประตูสู่ยุโรปสำหรับนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นหลายคน และเป็นจุดเริ่มต้นของการที่นักฟุตบอลญี่ปุ่นได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการฟุตบอลโลก

ชัยชนะคือใบเบิกทาง

 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นนักเตะหญิงชาวญี่ปุ่นมากความสามารถหลายคนย้ายเข้ามาค้าแข้งใน Women's Super League (WSL) ของอังกฤษ ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลหญิงระดับสูงสุดของประเทศ

ปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักเตะญี่ปุ่นมาสู่ WSL หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือความสำเร็จของทีมชาติญี่ปุ่นในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิงเมื่อปี 2011 ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับนักเตะหญิงชาวญี่ปุ่นไปทั่วโลก ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำในยุโรป รวมถึงสโมสรใน WSL ด้วย

ความท้าทายของ ‘ฟุตบอลญี่ปุ่น’ ในเวทีโลก

เมื่อนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในลีกต่างประเทศ ก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจและจุดประกายให้สโมสรอื่น ๆ หันมาให้ความสนใจกับนักเตะชาวญี่ปุ่นมากขึ้น 

อย่างไรก็ดี ความท้าทายของเจลีกในการรักษาฐาน ”แฟนคลับ“ เมื่อนักเตะญี่ปุ่นมากความสามารถทยอยย้ายไปค้าแข้งในลีกชั้นนำของยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ ลีกภายในประเทศอย่างเจลีกก็ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ หนึ่งในปัญหาสำคัญคือการรักษาฐานแฟนบอลเอาไว้ให้ได้ เพราะเมื่อนักเตะที่แฟนๆ ชื่นชอบย้ายออกไป ก็อาจส่งผลให้จำนวนผู้ชมลดลงตามไปด้วย

โดยเฉลี่ยจำนวนผู้ชมต่อเกมในลีกสูงสุดของเจลีกอยู่ที่ประมาณ 20,000 คนในปี 2024 แม้ว่าจะเป็นจำนวนสูงสุดในเอเชีย แต่ก็ยังห่างไกลจากพรีเมียร์ลีกที่มีผู้ชมเฉลี่ย 40,000 คน

สปอร์ตไลท์ ส่อง ‘เจลีก’  ปั้นนักเตะค้าแข้งยุโรปทะลุ 100 คน ในเวลาแค่ 5 ปี

ขณะที่นักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นกำลังสร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในลีกชั้นนำของยุโรปอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายที่ใหญ่กว่ากำลังรออยู่ นั่นคือการยกระดับความสามารถของสโมสรในประเทศให้สามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้อย่างจริงจัง

“ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025“ คือเครื่องวัดความแข็งแกร่งที่สโมสรญี่ปุ่นจะได้พิสูจน์ศักยภาพบนเวทีโลก การได้พบกับยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด ที่จะวัดความพร้อมของสโมสรญี่ปุ่น

ในปีหน้า แฟนบอลต่างส่งความหวังให้กับ Urawa Red Diamonds ในฐานะตัวแทนของญี่ปุ่นในรายการนี้ จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ การเอาชนะทีมระดับโลกเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทำได้จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับฟุตบอลญี่ปุ่น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับสโมสรอื่นๆ ในประเทศ

 

 

อ้างอิง Nikkei