สื่อเผย 'ฮอนด้า' จะผลิตรถไฮบริดให้ 'นิสสัน' ใช้โรงงานของอีกฝ่ายได้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า บริษัท "ฮอนด้า มอเตอร์" (Honda) และ "นิสสัน มอเตอร์" (Nissan) กำลังพิจารณาการเป็นพันธมิตรทางการผลิต โดยจะผลิตรถยนต์ในโรงงานของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระชับความสัมพันธ์และความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการระหว่างกัน

รายงานระบุว่า ฮอนด้าอาจพิจารณาผลิต "รถยนต์ไฮบริด" ให้กับนิสสัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว โดยจะเป็นการผลิตรถไฮบริดเพื่อป้อนตลาดอเมริกาเหนือที่กำลังมีความต้องการรถยนต์ประเภทนี้ 

ขณะเดียวกัน ทั้งสองบริษัทได้กำหนดประเด็นเร่งด่วนในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และเนื่องจากฮอนด้ามีโรงงานผลิตในยุโรปสำหรับการผลิตเครื่องยนต์และรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น จึงมีแนวโน้มว่าฮอนด้าจะใช้โรงงานของนิสสันในอังกฤษเพื่อผลิตรถยนต์ที่นั่นด้วย 

นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองรายยังกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง "บริษัทโฮลดิ้ง" ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในระดับโลก ซึ่งมีคู่แข่งจากต่างประเทศครองตลาดอยู่ 

ทั้งนี้แผนการควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้า ค่ายรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น และนิสสันซึ่งเป็นค่ายรถยนต์อันดับสาม จะทำให้บริษัทกลายเป็นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกในแง่ของยอดขายรถยนต์ โดยคาดว่าจะผลิตรถยนต์ได้ 7.4 ล้านคันต่อปี เป็นรองเพียง "โตโยต้า มอเตอร์" และ "โฟล์คสวาเกน" 

ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น ทั้งสองรายนี้จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เมื่อเดือนมี.ค. 2567 เพื่อร่วมมือกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นิสสันประสบปัญหาครั้งใหญ่ทางด้านการเงินและกลยุทธ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว โฆษกของฮอนด้าระบุเพียงว่า "ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ ฮอนด้า นิสสันและมิตซูบิชิ มอเตอร์ส กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมจุดแข็งเข้าด้วยกันและสำรวจรูปแบบความร่วมมือที่เป็นไปได้ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ" เช่นเดียวกับนิสสันที่ปฏิเสธการแสดงความเห็น โดยระบุว่ารายละเอียดของรายงานไม่ได้อิงตามประกาศของบริษัท