สรุป ‘7 หุ้นนางฟ้า’ 2024 โต 800% กินส่วนแบ่งตลาด S&P 500 มากสุดในรอบ 10 ปี

สรุป ‘7 หุ้นนางฟ้า’ 2024 โต 800% กินส่วนแบ่งตลาด S&P 500 มากสุดในรอบ 10 ปี

สรุป ‘7 หุ้นนางฟ้า’ 2024 ผ่านไป 10 ปีโต 800% กินส่วนแบ่งตลาด S&P 500 มากสุดในรอบทศวรรถึง 34.6% ปีนี้ ‘อินวิเดีย-เทสลา-เมตา‘ 3 จ่าฝูงสร้างผลตอบแทนสูงสุด 190%

ในช่วงกลางปี 2567 “7 หุ้นนางฟ้า” (Magnificent 7) ครองส่วนแบ่งตลาดมหาศาลใน ดัชนี S&P 500 โดยมีมูลค่ารวมเกือบ 16 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นเกือบหนึ่งในสาม หรือ 34.6% ของมูลค่าตลาดรวมของ S&P 500 ที่อยู่ที่ 46 ล้านล้านดอลลาร์ 

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดรวมของหุ้นทั้ง 7 ตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 800% เมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิงทั่วไปที่เติบโตเพียง 150% โดยเฉพาะ Nvidia, Tesla และ Amazon ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม

หากย้อนกลับไปในปี 2557 สัดส่วนมูลค่าตลาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้ใน S&P 500 ยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 10% แต่เพียงไม่กี่ปีต่อมา ตัวเลขดังกล่าวกลับพุ่งสูงขึ้นแตะเกือบ 35% ในช่วงกลางปี 2567 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทเทคโนโลยีต่อตลาดหุ้นโลก

วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” สรุปผลงานปี 2024 ของ 7 หุ้นนางฟ้า ได้แก่ Apple, Microsoft, Google (Alphabet), Amazon, NVIDIA, Tesla และ Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram 

สรุป ‘7 หุ้นนางฟ้า’ 2024 โต 800% กินส่วนแบ่งตลาด S&P 500 มากสุดในรอบ 10 ปี

Apple 

Apple ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 39.53% โดยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2024 โดยมีรายได้รวม 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.4 หมื่นพันล้านดอลลาร์ลดลง 36% จากปีก่อน เนื่องจากการจ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้น

Nvidia

Nvidia ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 190.49% โดยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024 มีรายได้รวม 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 94% จากปีก่อนหน้าและมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 109%

Microsoft

Microsoft ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 18.13% โดยรายงานรายได้ไตรมาสที่ 3 ปี 2024 อยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้าและกำไรสุทธิ อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% 

Amazon

Amazon ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 51.44% โดยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยมีรายได้รวม 1.5 แสนล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน

Alphabet

Alphabet ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 74.23% โดยรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 ด้วย รายได้รวม 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 15% จากปีก่อนด้าน กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์เติบโต 13% จากปีก่อน

Meta

Meta ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 82.81% โดย Meta Platforms รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 โดยมีรายได้รวม 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน

Tesla

Tesla ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 82.81% โดยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 40% หลังจากที่ “อีลอน มัสก์” ขึ้นมาเป็นที่ปรึกษากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ซึ่งมีชื่อย่อว่า Doge ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า Tesla จะได้รับประโยชน์ภายใต้การบริหารของทรัมป์

 โดยรายงานรายได้สุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.17 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าและสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดถึง 22%

 

อนาคต ‘7 หุ้นนางฟ้า’ ปี 2025 

จากผลสำรวจของ eToro พบว่านักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำหรือ Magnificent Seven เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Tesla ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยสัดส่วน 14% ของนักลงทุนที่ระบุว่าจะเพิ่มการลงทุนในหุ้นค่ายรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้มากที่สุดในปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ของ Tesla 

ตามมาด้วย Apple และ Amazon ที่ได้รับความนิยมเท่ากันที่ 12% ขณะที่ Nvidia, Alphabet, Microsoft และ Meta ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในสัดส่วน 9%, 8%, 8% และ 6% ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มในอนาคต นักลงทุนส่วนใหญ่มีความคาดหวังเชิงบวกต่อผลประกอบการของกลุ่มหุ้น Magnificent Seven โดย 13% เชื่อมั่นว่ากลุ่มหุ้นนี้จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 ขณะที่อีก 35% คาดการณ์ว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดเล็กน้อย