สื่อเกาหลีใต้ชี้ เครื่องบินเจจู แอร์ ถูกใช้งานหนัก

สื่อเกาหลีใต้ชี้ เครื่องบินเจจู แอร์ ถูกใช้งานหนัก

สื่อเกาหลีใต้ โชซอน เดลี เผย เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจู แอร์ ขึ้นบินถี่ถึง 18 ครั้ง ใน 48 ชั่วโมง ก่อนเกิดโศกนาฎกรรมที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 179 คน

 ในขณะที่เกาหลีใต้ เร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 ของสายการบิน “เจจู แอร์” (Jeju Air) เที่ยวบิน 7C 2216 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 181 คน ไถลออกนอกรันเวย์และชนกำแพงอิฐของสนามบินนานาชาติมูอัน จังหวัดช็อลลา จนเกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 คนนั้น 

สื่อออนไลน์ของเกาหลีใต้ “โชซอน อิลโบ” ได้รายงานว่า เครื่องบินลำนี้ ได้ให้บริการถึง 13 เที่ยวบิน ใน 8 สนามบิน ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเกิดเหตุ ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นการใช้งานเครื่องบินลำนี้ ที่มีอายุงาน 15 ปี จนเกิดความ “ล้า” หรือไม่

 รายงานระบุว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม เครื่องบินได้ให้บริการทั้งเส้นทางระยะสั้น และระยะกลาง โดยมีระยะเวลาบินตั้งแต่ 38 นาที จนถึงเกือบ 6 ชั่วโมง โดยหลังจากถึงสนามบินแล้ว เครื่องบินมักจะรอประมาณ 1 หนึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม เพียงหนึ่งวันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินได้ลงจอดที่สนามบินนางาซากิของญี่ปุ่น ในเวลา 12.04 น. และออกเดินทางไปยังสนามบินมูอัน ในอีก 48 นาทีต่อมา คือ เวลา 12.52 น.ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบิน ชี้ว่า ตารางการบินที่แน่นเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเส้นทางระยะสั้น

 แต่เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินโบอิง 737-800 ที่ผลิตขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 2552 และโดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับเที่ยวบินระยะสั้นถึงระยะกลางที่บินไม่เกิน 6 ชั่วโมง และเป็นรุ่นที่สายการบินเจจู แอร์ใช้มากที่สุดโดย 37 ลำจากทั้งหมด 39 ลำเป็นรุ่นนี้ และการที่เครื่องบินมีอายุการใช้งาน 15 ปี ยังไม่ถือว่าเก่า ขณะที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคมของเกาหลีใต้ ได้กำหนดให้เครื่องบินที่ถือว่า “เก่า” มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป 

สวนทางกับนักวิเคราะห์การบินที่ชี้ว่า ความปลอดภัยและสภาพของเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ขึ้นลง และชั่วโมงบินทั้งหมดมากกว่าอายุของเครื่องบิน การให้บริการเที่ยวบินระยะสั้นบ่อยครั้ง เช่น เที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ อาจทำให้เครื่องบิน “ล้าเร็วขึ้น” และในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เครื่องบินโดยสารของสายการบินเชจู แอร์ ได้บันทึกเวลาปฏิบัติการเฉลี่ยต่อเดือนที่ 418 ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าเครื่องบินของสายการบินโคเรียน แอร์ (Korean Air) ที่อยู่ที่ 355 ชั่วโมง ถึง 18%

 ก่อนหน้านี้ ซอง คยองฮุน หัวหน้าฝ่ายสนับสนุนฝ่ายบริหารของสายการบินเจจู แอร์ แถลงว่า การดำเนินงานของเครื่องบินไม่ได้ไร้เหตุผลหรือมากเกินไป สายการบินปฏิบัติตามการบำรุงรักษาตามกำหนดอย่างเคร่งครัดและ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนและหลังเที่ยวบินแต่ละเที่ยว อุบัติเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับการละเลยการบำรุงรักษาเครื่องบิน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากการสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่สรุป

 เครื่องบินโบอิง 737-800 เป็นหนึ่งในเครื่องบินรุ่นขายดีที่สุดของโบอิง โดยมีเครื่องบินให้บริการทั่วโลกประมาณ 4,400 ลำ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องบินรุ่นนี้ได้ประสบเหตุร้ายแรงหลายครั้ง ในปี 2565 เมื่อเครื่องบิน B737-800 ของสายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส (China Eastern Airlines) ตก ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 132 คน และในเดือนมีนาคมปีนี้ เครื่องบิน B737-800

ของสายการบิน อลาสกา แอร์ไลน์ส (Alaska Airlines) ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินพอร์ตแลนด์ เนื่องจากมีควันจากห้องโดยสาร ต่อมาในเดือนเมษายน

เครื่องบินของสายการบิน เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ส (Southwest Airlines) ที่มุ่งหน้าสู่เมืองฮุสตัน ต้องลงจอดฉุกเฉินหลังจากฝาครอบเครื่องยนต์หลุดออกกลางเที่ยวบินที่ระดับความสูง 3,000 เมตร

 ส่วนเจจู แอร์ เป็นสายการบินประหยัดที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเจจู ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง เอ-คยอง กรุ๊ป (Aekyung Group) กับทางการจังหวัดเจจู จนกลายเป็นผู้นำตลาดในด้านรายได้และจำนวนผู้โดยสาร ในบรรดาสายการบินราคาประหยัดทั้ง 9 แห่งของเกาหลีใต้ ในปี 2566 โดยมีรายงานยอดขายที่ 1.724 ล้านล้านวอน และกำไรจากการดำเนินงาน 169,800 ล้านวอน