ก.คลังสหรัฐชี้ถูกแฮกระบบจาก 'แฮกเกอร์ที่จีนหนุน'

ก.คลังสหรัฐชี้ถูกแฮกระบบจาก 'แฮกเกอร์ที่จีนหนุน'

กระทรวงการคลังสหรัฐแจ้งสภาคองเกรส ถูกเจาะเข้าระบบหลังบ้านจากฝีมือ 'แฮกเกอร์ที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน' เข้าถึงข้อมูลเอกสารและคอมพิวเตอร์ของกระทรวง ด้านสถานทูตจีนโต้ไม่มีมูล ชี้สหรัฐต้องหยุดใส่ร้ายจีน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (31 ธ.ค.) โดยอ้างจดหมายที่กระทรวงการคลังสหรัฐส่งถึงสภาคองเกรสว่า กระทรวงการคลังสหรัฐถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบหลังบ้าน โดยฝีมือของ "แฮกเกอร์รายหนึ่งที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน" ซึ่งเจาะเข้ามาผ่านทางผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บุคคลที่สามของบริษัท BeyondTrust Inc.

จดหมายดังกล่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า การถูกแฮกครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ เนื่องจากเกิดจากการกระทำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ 
 

กระทรวงการคลังได้รับแจ้งจากบริษัทซอฟต์แวร์บียอนด์ทรัสต์เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า มีแฮกเกอร์รายหนึ่งสามารถเข้าถึง "กุญแจที่เวนเดอร์ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของบริการคลาวด์ ที่ให้การสนับสนุนทางเทคนิคจากระยะไกลแก่ผู้ใช้ปลายทางของสำนักงานกระทรวงการคลัง (DO)"

ทางกระทรวงการคลังสหรัฐได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐาน (CISA) สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ชุมชนข่าวกรอง และเจ้าหน้าที่สืบสวนนิติเวชจากภายนอก ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่ทำให้เชื่อได้ว่า

"แฮกเกอร์ขั้นสูงที่เชื่อมโยงกับจีนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว"

ทางด้าน สถานเอกอัคราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ได้ตอบโต้ข้อกล่าวหานี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง และระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า

“สหรัฐต้องหยุดใช้เรื่องไซเบอร์ซีเคียวริตีเพื่อโจมตีและใส่ร้ายจีน และหยุดเผยแพร่ข้อมูลเท็จทุกประเภทเกี่ยวกับภัยคุกคามจากการแฮ็กของจีน”

ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์กพบว่า BeyondTrust ซึ่งเป็นบริษัทที่จำหน่ายซอฟต์แวร์การจัดการการเข้าถึงและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อื่นๆ มีสัญญากับรัฐบาลกลางสหรัฐมูลค่ากว่า 4 ล้านดอลลาร์ และนอกจากกระทรวงการคลังแล้ว บริษัทนี้ยังทำธุรกิจกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก กระทรวงยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐบาลสหรัฐด้วย

ด้านตัวแทนของ BeyondTrust ไม่ตอบรับการขอความเห็นต่อเรื่องนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกไม่ได้ตอบรับการขอความเห็นต่อเรื่องนี้เช่นกัน