HMPV กับโควิด-19 ไวรัสใดร้ายกว่ากัน ทำไมการติดเชื้อในจีนเพิ่มเร็ว
จีนกำลังมีผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น รวมถึงไวรัส HMPV ที่พุ่งขึ้นมากทางภาคเหนือในช่วงฤดูหนาวโดยเฉพาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ชวนให้สงสัยว่าไวรัสตัวนี้ร้ายแค่ไหน เหมือนหรือต่างกับโควิด-19
เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย (ซีเอ็นเอ) ของสิงคโปร์รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีนรายงานโดยไม่เปิดเผยตัวเลขเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ถึงแนวโน้มโรคทางเดินหายใจโดยรวมระหว่างวันที่ 23 ธ.ค.-29 ธ.ค.เพิ่มขึ้น สอดรับกับตัวเลขระหว่างวันที่ 16-23 ธ.ค. ที่ซีดีซีจีนประกาศเริ่มระบบติดตามนำร่อง “โรคปอดอักเสบโดยไม่ทราบต้นกำเนิดแน่ชัด” ซึ่งรวมถึงการกำหนดหลักปฏิบัติสำหรับห้องทดลองและหน่วยงานควบคุมโรคให้ตรวจสอบและจัดการเคสดังกล่าว
ภาพถ่ายและคลิปวีดิโอที่เผยแพร่กันว่อนโซเชียลมีเดียจีนเผยให้เห็นฝูงชนเข้าแถวยาวเป็นงูเลื้อยที่โรงพยาบาล คลินิค และศูนย์การแพทย์
ซีดีซีกล่าวว่า จีนยังคงอยู่ใน “ฤดูโรคทางเดินหายใจเกิดสูง” พร้อมเตือนประชาชนให้ป้องกันตัว เช่น สวมหน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และรักษาสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ
“โรคติดเชื้อทางเดินหายใจมีแนวโน้มเพิ่มมากช่วงฤดูหนาวในซีกโลกเหนือโรคนี้ดูเหมือนรุนแรงน้อยกว่า และระบาดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า” นางสางเหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 3 ม.ค.
- HMPV คืออะไร
HMPV หรือฮิวแมน เมตานิวโมไวรัส เป็นโรคทางเดินหายใจที่มีอาการคล้ายกับหวัดทั่วไป เช่น ไอ มีไข้ คัดจมูก หายใจขัดในกรณีรุนแรง ไวรัสอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบหรือหลอดลมอักเสบ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรรัฐ แนะนำว่า ไวรัสนี้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างได้ทุกวัย โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ระยะฟักตัวโดยประมาณอาจกินเวลา 3-6 วัน ไวรัสตัวนี้ “พบได้มากที่สุด” ช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิในภูมิอากาศอบอุ่น เด็กเล็ก คนชรา และผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเสี่ยงที่สุด
ส่วนการแพร่กระจายก็เหมือนกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ อย่างโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ไวรัส HMPV กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เช่น การสัมผัส จับมือ, ละอองจากการไอ จาม และการสัมผัสวัตถุหรือพื้นผิวที่มีไวรัส
- ทำไมการติดเชื้อจึงเพิ่มขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อเผยกับซีเอ็นเอว่า การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในจีน “สอดคล้องกับรูปแบบทั่วโลก” ที่จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นช่วงปลายฤดูหนาว สภาพอากาศในจีนปัจจุบันหนาวเย็น คาดว่าอุณหภูมิจะต่ำต่อเนื่องไปจนถึงเดือน มี.ค.
นายแพทย์คู ยุงเคียน จากศูนย์ความพร้อมโรคระบาดDuke-NUS กล่าวว่า การติดเชื้อ หรือการระบาดของ HMPV ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะในหมู่เด็กอายุต่ำกว่าห้าปี
“การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อเข้มงวดมากขึ้นนับตั้งแต่โควิด-19 เราจึงสามารถตรวจพบผู้ป่วยได้ง่ายขึ้นเพราะเฝ้าระวังดีขึ้น การติดตามการระบาดเหล่านี้ถือว่าคุ้มค่า เพื่อสามารถดำเนินการได้ทันท่วงทีหากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกะทันหัน หรือรูปแบบการติดต่อเปลี่ยนแปลงไป” นายแพทย์กล่าว
ศาสตราจารย์พอล แทมบ์ยาห์ ที่ปรึกษาอาวุโส แผนกโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนเพิ่มการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอย่างรุนแรงขึ้นมาก โดยมีการวินิจฉัยและใช้เทคโนโลยีดีขึ้น
“ไม่น่าแปลกใจที่ตรวจพบการติดเชื้อ HMPV มากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นปกติในจีนช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะทางภาคเหนือ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ควรกังวลมากเกินไป เนื่องจากไม่มีรายงานผลกระทบใหญ่ต่อสาธารณสุขจากการตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทางภาคเหนือของจีน (แต่) แน่นอนว่า ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ถ้ามีข้อมูลมากขึ้น” ศาสตราจารย์แทมบ์ยาห์ย้ำ
- แรงแค่ไหนเมื่อเทียบกับโควิด-19
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขชี้ว่า ไวรัสสองตัวนี้แตกต่างกันอย่างมาก HMPV รุนแรงน้อยกว่าด้วยอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า
“ในกลุ่มผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล HMPV ไม่ได้รุนแรง (กว่าโควิด-19) และไม่ได้มีอัตราเสียชีวิตสูงกว่า โควิด-19 เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ระบาดรอบแรก ตอนแรกรุนแรงกว่าเพราะเป็นไวรัสใหม่ ประชาชนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน (แต่ตอนนี้) มันเหมือนกับไวรัสไข้หวัดทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ ในผู้ใหญ่ทั่วไป ซึ่งรวมถึง HMPV ด้วย” ดร. ชอว์น วาซู ผู้อำนวยการฝ่ายคลินิกศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติ กล่าวกับซีเอ็นเอ
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์แทมบ์ยาห์กล่าวว่า HMPV ติดต่อในเด็กเล็กได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับโควิด-19 ส่วนอันตรายก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของไวรัสที่จะทำให้โรคประจำตัว อย่างหอบหืด รุนแรงขึ้น ซึ่งสามารถทำให้เจ็บป่วยทางเดินหายใจปานกลาง จนบางครั้งต้องเข้าโรงพยาบาล
“การเสียชีวิตจาก HMPV เกิดขึ้นได้ยาก”ศาสตราจารย์แทมบ์ยาห์ย้ำ ถ้ามีก็มักเกิดขึ้นเมื่อพบร่วมกับไวรัสที่รุนแรงมากกว่าอย่างไข้หวัดใหญ่
แต่ที่แตกต่างคือโควิด-19 มีวัคซีนและยาต้านไวรัสเช่นแพ็กซ์โลวิด แต่ HMPV ยังไม่มียา ไม่มีวัคซีนป้องกัน ทั้งๆ ที่ไวรัสนี้ถูกค้นพบมาแล้วหลายสิบปี
- เกิดอะไรขึ้นในประเทศจีน
ภาพผู้คนเข้าแถวยาวหน้าโรงพยาบาลและคลินิกในเมืองอย่างเทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่ง แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดียจีน ผู้คนสวมหน้ากากท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ณ จุดต่างๆ มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ปกครองบางคนแชร์ภาพผู้คนแน่นขนัดในโรงพยาบาลเด็กทั้งที่ปักกิ่งและฉงชิ่ง
ผู้ใช้แอพพลิเคชันเสี่ยวหงฉูรายหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ เล่าว่าโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งต้องใช้เวลาคอยเฉลี่ยถึงสามชั่วโมง เธอจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลอื่นแทน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้คนมากมายในแผนกอุบัติเหตุ&ฉุกเฉินตอนกลางคืน”
ผู้ใช้อีกคนนามว่า เอเวอร์ลิน แชร์ภาพถ่ายกลางดึกวันที่ 5 ม.ค. ผู้คนยังเข้าแถวยาวเป็นงูเลื้อยที่แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ศูนย์การแพทย์เด็กเซี่ยงไฮ้
“มองท้ายแถวไม่เห็นเลย” เธอระบุ
ชาวเน็ตจีนมักจะพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนถึงข่าวผู้ติดเชื้อรายใหม่และอัตราการติดเชื้อ บางคนแชร์ประสบการณ์ติดไวรัส HMPV
“ตอนแรกฉันคิดว่าเจ็บคอธรรมดา แต่แล้วก็มีน้ำมูก ปวดหัว เวียนหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว” ผู้ใช้เสี่ยวหงฉูรายหนึ่งเล่า ขณะที่อีกคนมาเสริม
“HMPV ไม่เหมือน (ไข้หวัด) หรือ โควิด-19 ที่เล่นงานคุณหมัดเดียวจอด มันทำให้คุณไม่สบายทีละนิดๆ” ผู้ใช้รายนี้เล่าและว่า อาการบรรเทาลงได้ก็ด้วยการกินยาเท่านั้น
- แนวทางการป้องกันตนเอง
จำนวนผู้ติดเชื้อ HMPV ที่เพิ่มมากขึ้น เกิดขึ้นห้าปีหลังจากโลกตื่นตัวกับโคโรนาไวรัสอุบัติใหม่ครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จนกลายเป็นระบาดใหญ่ทั่วโลก คนไข้ล้นโรงพยาบาล นานาประเทศต้องล็อกดาวน์
นายแพทย์คูจากDuke-NUS กล่าวว่า ในสิงคโปร์ บทเรียนที่ได้จากโควิด-19 ตั้งแต่ระบบเฝ้าระวังดีขึ้นไปจนถึงการดูแลสุขอนามัย
ด้านกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ได้แนะนำให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
และเนื่องจากการติดเชื้อ HMPV ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก ศาสตราจารย์แทมบ์ยาห์แนะนำให้ครอบครัวที่ต้องเดินทางกับเด็กต้องระมัดระวัง
“หากชาวสิงคโปร์เดินทางกับเด็กๆ พวกเขาจะต้องระวังการติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดเป็นระยะเวลานานหรือรุนแรงกว่าปกติ และควรไปพบแพทย์ทันที”
ด้านนายแพทย์คูกล่าวว่า สิงคโปร์มีระบบเฝ้าระวังที่ดีสามารถตรวจพบการติดเชื้อในท้องถิ่นได้ในกรณีที่มี และมีข้อมูลการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อระดับโลกที่ทันสมัย
“ถ้ามีเบาะแสการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจที่รุนแรงขึ้นหรือเป็นวงกว้างไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลก ผมคิดว่าเราจะสามารถรับมือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” ศาสตราจารย์แทมบ์ยาห์กล่าวอย่างมั่นใจก่อนทิ้งท้ายกับซีเอ็นเอ
“โชคดีที่ HMPV ยังไม่ถึงขนาดนั้น”
- ระบาดที่ใดอีกบ้าง
นับถึงวันที่ 7 ม.ค. องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยังไม่ HMPV เป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก แต่หลายประเทศทั่วเอเชียต่างเฝ้าระวัง จับตาจำนวนผู้ติดเชื้อ และขอให้ประชาชนยังคงตื่นตัวดูแลสุขอนามัยให้ดี
ในอินเดีย ประเทศหนึ่งที่โควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุด พบทารกสองคนติดเชื้อในเบงกาลูรู เมืองเอกของรัฐกรณาฏกะ
“มันเป็นไวรัสที่มีอยู่แล้ว มีคนติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่” ดิเนส กันดู ราว รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐกรณาฏกะ กล่าวกับสื่อท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. อินเดียเป็นประธานการประชุมร่วม มีผู้เชี่ยวชาญจากดับเบิลยูเอชโอและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุขและบรรเทาทุกข์หลายประเทศเข้าร่วม
“ไวรัสเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วโลกแล้วรวมทั้งอินเดีย หลังจากหารือในรายละเอียดตามข้อมูลในขณะนี้ เราเห็นพ้องว่าสถานการณ์ในจีนเป็นปกติเมื่อพิจารณาจากฤดูไข้หวัดที่กำลังดำเนินอยู่” แถลงการณ์การประชุมระบุ
ในฮ่องกงมีรายงานผู้ติดเชื้อเช่นกัน แต่จำนวนยังน้อย ในไต้หวันหน่วยงานสาธารณสุขกำลัง “จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
ด้านรัฐบาลทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มออกคำแนะนำด้านสาธารณสุขออกมาแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียรายงานปี 2024 มีผู้ติดเชื้อHMPV 327 คน เพิ่มขึ้น 45% จาก 225 คนในปี 2023
“ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองให้ดีและป้องกันการติดเชื้อไปยังคนอื่น โดยเฉพาะในสถานที่ปิดผู้คนหนาแน่น รวมถึงการวางแผนเดินทางไปยังประเทศเสี่ยง” แถลงการณ์ของมาเลเซียเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ระบุ
ส่วนอินโดนีเซียแม้ยังไม่พบการติดเชื้อ ทางการก็เริ่มจับตาการแพร่ระบาดในจีน และเพิ่มการตรวจตามด่านเข้าออก
“เราจะเดินหน้าประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการป้องกันมีประสิทธิผลเพื่อไม่ให้ไวรัสนี้เข้าสู่อินโดนีเซีย” วิทยาวาตี โฆษกกระทรวงสาธารณะสุขอินโดนีเซียแถลงเมื่อวันเสาร์ (4 ม.ค.)
ในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) เวียดนามประกาศว่ากำลังจับตาสถานการณ์การระบาดของไวรัสที่ทำให้เกิดปอดอักเสบในมนุษย์ที่จีนแผ่นดินใหญ่อย่างใกล้ชิด
หน่วยงานสาธารณสุขกัมพูชาขอให้ประชาชนระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทาง
“เนื่องจากอากาศ (ในกัมพูชา) ไม่ได้เย็นมาก HMPV จึงไม่รุนแรงเท่าไข้หวัดและเด็กส่วนใหญ่เป็นแล้วก็หาย” กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแถลง อย่างไรก็ตามแม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย “เด็กราว 6-16% อาจมีอาการรุนแรงขึ้นอย่างหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบได้”
ในสิงคโปร์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า HMPV ติดได้ตลอดทั้งปี แต่สังเกตได้ว่าการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี น่าจะเป็นเพราะผู้คนสังสรรค์และเดินทางช่วงเทศกาลกันมากขึ้น
ในเดือน ธ.ค.ปีก่อน5.5%-9% ของตัวอย่างการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน (เออาร์ไอ) ในชุมชนเป็นการติดเชื้อ HMPV
“ในปี 2024 การติดเชื้อ HMPV รายสัปดาห์ในกลุ่มตัวอย่างเออาร์ไอในชุมน อยู่ที่ 0.8%-9% เดือน ธ.ค.อยู่ที่5.5%-9%” การเพิ่มขึ้นสอดรับกับปีก่อนหน้า
ศาสตราจาย์แทมบ์ยาห์กล่าวเพิ่มเติมว่า HMPV มีในสิงคโปร์มานานแล้ว เป็นการติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจที่พบในเด็กมากเป็นอันดับสองรองจากไวรัสอาร์เอสวีเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน