ยอดขาย ‘Honda’ ร่วงไม่หยุด! ดิ่งเหวในจีน 31% สู้สงครามราคาไม่ไหว
‘ฮอนด้า’ กำลังเผชิญวิกฤติหนัก ยอดขายดิ่งลงในจีนอย่างต่อเนื่องกว่า 31% ถูกคู่แข่ง BYD รุกหนักทั้งราคา และเทคโนโลยี ผลจากค่ายรถญี่ปุ่นปรับตัวเข้าสู่ยุคอีวีล่าช้า
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ของ “ฮอนด้า” (Honda) ในจีนลดลง 30.9% ในปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 852,269 คัน ซึ่งเป็น “ครั้งแรกในรอบเก้าปี” ที่ยอดขายลดลงต่ำกว่า 1 ล้านคัน เนื่องจากเผชิญแรงกดดันจากสงครามราคาอย่างหนักกับบีวายดี (BYD) และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ในประเทศจีน
อีกทั้งยอดขายของ “นิสสัน” (Nissan) ลดลง 12.2% เหลือ 696,631 คัน และยอดขายของ “โตโยต้า” (Toyota) ลดลง 6.9% เหลือ 1,776,000 คัน นี่เป็นปีที่สามติดต่อกันที่ยอดขายของทั้งสามบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ฮอนด้า และนิสสันกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจารวมกิจการ ยอดขายรวมในประเทศจีนของทั้งสองบริษัทในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,548,900 คัน ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายสูงสุดในปี 2562 ที่มากกว่า 3.1 ล้านคัน
ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ BYD ในจีนแตะระดับ 3.83 ล้านคันในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 8.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2562
สำหรับปัญหาของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในจีนเกิดจาก “ความล่าช้า” ในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์พลังงานใหม่อื่นๆ ซึ่งมีความต้องการสูงในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์เบนซินในจีนจากเดือนมกราคม ถึงพฤศจิกายน 2567 ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน
ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง บริษัท BYD กำลังลดต้นทุนการผลิตบางส่วนโดยการผลิตแบตเตอรี่ในตัวรถเอง และได้ลดราคาของรถยนต์หลายรุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการลดราคาขายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน
ในปัจจุบัน ราคาขายปลีกเฉลี่ยของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในตลาดจีนอยู่ที่ 164,900 หยวนหรือราว 7.7 แสนบาทในเดือนธันวาคม ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยด้านยานยนต์ Autohome ของจีน
ในบรรดาบริษัทญี่ปุ่น ราคายานพาหนะจากบริษัทร่วมทุนของฮอนด้ากับตงเฟิงลดลง 8.1% เหลือ 130,600 หยวน ในขณะที่ราคาของตงเฟิง นิสสันลดลง 3% เหลือ 96,200 หยวน ซึ่งการลดลงของปริมาณการขายและราคาในเวลาเดียวกันนี้ได้กัดเซาะผลกำไร
ฮอนด้าและนิสสันได้ดำเนินการลดกำลังการผลิต และปรับปรุงโครงสร้างบุคลากรในประเทศจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยฮอนด้าได้ปิดโรงงานกวางโจวที่มีกำลังการผลิต 50,000 คันในเดือนตุลาคม และระงับการดำเนินงานที่โรงงานอู่ฮั่นที่มีกำลังการผลิตต่อปี 240,000 คันในเดือนพฤศจิกายน
ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ทั้งหมดในประเทศจีนสูงถึง 40% การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าได้เข้าสู่ช่วงที่ค่อนข้างเสถียรแล้ว และในแง่ของเทคโนโลยีนั้น ความสนใจได้เปลี่ยนไปมุ่งเน้นที่การขับขี่อัตโนมัติโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัท BYD มีเป้าหมายที่จะติดตั้งฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวงให้กับรถยนต์ใหม่ที่ขายในปีนี้ถึง 60% ตามรายงานของสื่อจีน
ในขณะนี้ บริษัทรถญี่ปุ่นกำลังเร่งดำเนินการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อัตโนมัติ ฮอนด้ากำลังร่วมมือกับหัวเว่ยของจีนในด้านการพัฒนาจอแสดงผล ในขณะที่นิสสันกำลังร่วมมือกับ Momenta ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านการขับขี่อัตโนมัติของจีน สำหรับรถยนต์นั่งพลังงานใหม่รุ่น N7 ที่มีกำหนดวางขายในปีนี้
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์