ประกันอ่วม! จ่าย 'ไฟป่าแอลเอ' สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
'จากวิกฤติไฟป่า ลามสู่วิกฤติวงการประกันภัย' การจ่ายชดเชยไฟป่าแอลเอรอบนี้จ่อใช้เงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ คาดพุ่งทะลุถึง 5.2 ล้านล้านบาท เหตุลามถึงเขตคนรวยอสังหาริมทรัพย์ราคาแพง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไฟป่าลอสแอนเจลิส ที่ปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์นี้ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง แต่คาดการณ์ว่าจะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และสูงติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มภัยธรรมชาติในสหรัฐ
ไฟป่าแอลเอ ครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 11 ราย และทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 12,000 หลัง ตั้งแต่วันอังคารที่ 7 ม.ค. ส่งผลให้ชุมชนที่เคยเป็นที่ตั้งของทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ต้องพังทลายไปทั้งชุมชน แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปมูลค่าความเสียหายได้อย่างแม่นยำ แต่จากการประมาณการต่างๆ บ่งชี้ว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยเกิดไฟป่าสหรัฐมา
การประมาณการเบื้องต้นโดย AccuWeather ระบุว่า ความเสียหายและความสูญเสียทางเศรษฐกิจจนถึงขณะนี้อยู่ที่ระหว่าง 135,000 - 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.2 ล้านล้านบาท) ในขณะที่ความเสียหายจากพายุเฮอริเคนเฮเลน เมื่อปี 2024 ซึ่งพัดถล่ม 6 รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว อยู่ที่ 225,000 - 250,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบข้อมูลจนถึงปัจจุบันพบว่า ไฟป่าแอลเอในครั้งนี้คาดว่าจะสร้างความเสียหายเป็นวงเงินสูงที่สุด ทุบสถิติของไฟป่า Camp Fire ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2018 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนความเสียหายจาก "ภัยธรรมชาติ" ที่คิดเป็นมูลค่าสูงที่สุดในสหรัฐนั้นยังคงเป็นกลุ่ม "พายุเฮอร์ริเคน" นำโดยเฮอร์ริเคนแคทรีนา เมื่อปี 2005 ที่ความเสียหาย 2.01 แสนล้านดอลลาร์
“นี่จะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของแคลิฟอร์เนีย และมีแนวโน้มว่าจะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐ เนื่องจากเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นรอบลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าอสังหาริมทรัพย์สูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ” โจนาธาน พอร์เตอร์ หัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของบริษัท AccuWeather กล่าว
ทางด้านบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัย Aon PLC เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ไฟป่าในเขตลอสแอนเจลิสมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ แม้ว่าจะไม่ได้ออกประมาณการก็ตาม Aon จัดอันดับไฟป่าที่รู้จักกันในชื่อ Camp Fire ในเมืองพาราไดซ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี 2018 ให้เป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐจนถึงขณะนี้ โดยมีมูลค่า 12,500 ล้านดอลลาร์เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อ คร่าชีวิตผู้คนไป 85 ราย และทำลายบ้านเรือนไปประมาณ 11,000 หลัง
สำหรับสถานการณ์เมื่อวันเสาร์ ไฟป่าในแอลเอซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากพายุลม Santa Ana และภัยแล้งรุนแรง ยังคงไม่สามารถควบคุมได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่ายอดรวมความเสียหายจากไฟป่ามีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก
“เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงนี้ ความเสียหายทั้งหมดและความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากไฟป่าครั้งนี้อาจสูงถึงเกือบ 4% ของจีดีพีรัฐแคลิฟอร์เนีย” พอร์เตอร์ กล่าว
ทางด้านบริษัทจัดอันดับเครดิต "มูดีส์" (Moody's) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ไฟป่าครั้งนี้จะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ เนื่องจากได้ลุกลามไปยังพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและมีอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ แม้ว่ารัฐนี้จะเคยประสบกับไฟป่าครั้งใหญ่มาบ้างแล้ว แต่โดยทั่วไป ไฟป่าจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ตอนในที่ไม่มีประชากรหนาแน่น ส่งผลให้มีการทำลายล้างต่อเอเคอร์น้อยลง และส่วนใหญ่จะสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนที่มีราคาถูกกว่า
แต่ในครั้งนี้ ไฟป่าได้ทำลายทรัพย์สินหลายพันหลังในเขตแปซิฟิก พาลิเซดส์ (Pacific Palisades) และมาลิบู (Malibu) ซึ่งเป็นบ้านของดาราฮอลลีวูดและผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ โดยมีดาราดังหลายคนสูญเสียบ้านเรือนไปจากไฟไหม้แล้ว
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 16 ราย
เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ของแอลเอได้ประกาศว่า พื้นที่ไฟป่าอีตันมีผู้เสียชีวิต 11 ราย และมีผู้เสียชีวิต 5 รายจากพื้นที่ไฟป่าพาลิเซดส์ ซึ่งกินพื้นที่ไปแล้วเกือบ 23,000 เอเคอร์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ในสัดส่วน 11% ทำให้ปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 16 รายแล้ว
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงลอสแอนเจลิสยังคงใช้ความพยายามในการดับไฟป่า ด้วยการใช้น้ำเป็นจำนวนมากดับกองไฟเพื่อสกัดไฟป่าพาลิเซดส์ที่ได้ลุกลามกินพื้นที่เพิ่มเติมถึง 1,000 เอเคอร์ และยังขยายวงไปยังพื้นที่เบรนท์วู้ด เป็นที่คาดการณ์ว่าแรงลมจะทวีกำลังขึ้นอีกในช่วงข้ามคืน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะโหมกระพือเปลวไฟให้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
เร่งสอบสาเหตุปมสายไฟบริษัทเอดิสัน
บริษัทเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอดิสัน (SCE) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า สำนักงานดับเพลิงกำลังสอบสวนว่า สายไฟของ SCE เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ในเขตชานเมืองลอสแอนเจลิสหรือไม่ แต่ได้ย้ำด้วยว่ายังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้แต่อย่างใด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า SCE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอดิสัน อินเทอร์เนชันแนล ระบุในเอกสารที่ส่งถึงหน่วยงานกำกับดูแลว่า พบสายไฟที่หลุดลงมาที่หอส่งไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมโยงกับวงจรไฟฟ้าแรงสูง Eagle Rock ของ SCE
"SCE ไม่ทราบว่าความเสียหายที่พบเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากเกิดไฟป่าขึ้น" SCE ระบุ ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นในวงจรไฟฟ้าเมื่อเวลา 22.11 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีรายงานการเกิดไฟป่าเฮิร์สต์ (Hurst Fire) ในเวลาประมาณ 22.10 น.ของวันที่ 7 ม.ค.
ข้อมูลจากกรมป่าไม้และป้องกันไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า ไฟป่าเฮิร์สต์ (Hurst fire) ซึ่งเกิดขึ้นในย่านซิลมาร์ในซาน เฟอร์นันโด วัลเลย์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอสแอนเจลิส ได้ลุกลามกินพื้นที่ไปมากกว่า 770 เอเคอร์ และในขณะนี้สามารถควบคุมไฟได้แล้ว 77%