IMF เตือนทรัมป์ดัน 'ดอกเบี้ยโลกขาขึ้น'

IMF เตือนทรัมป์ดัน 'ดอกเบี้ยโลกขาขึ้น'

'ไอเอ็มเอฟ' เตือนนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ อาจเป็นชนวนทำอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกหวนคืนสู่ภาวะขาขึ้นอีกครั้ง เตรียมออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก 17 ม.ค. นี้ ก่อนพิธีสาบานตนผู้นำคนใหม่ของสหรัฐ

คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของรัฐบาลชุดใหม่สหรัฐ กำลังเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะลดลงมาแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ "ผิดปกติมาก" 

โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม ได้ให้คำมั่นว่าจะลงนามในคำสั่งบริหารขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง เช่น จีน ไปจนถึงประเทศพันธมิตรอย่าง แคนาดาและเม็กซิโก ทำให้เกิดความกังวลว่าการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวและผลักดันให้ราคาสินค้าสูงขึ้น 

ปิแอร์ โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวเตือนเมื่อเดือนตุลาคมว่า ภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนของการค้าอาจฉุดจีดีพีทั่วโลกลดลงประมาณ 0.5%

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2024 และช่วงวันแรกๆ ของปีใหม่ 2025 ผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายในระยะที่สองของทรัมป์

"ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เมื่อพิจารณาจากขนาดและบทบาทของเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว ทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจอย่างมากในทิศทางนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะเรื่องภาษีศุลกากร ภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบ และประสิทธิภาพของรัฐบาล" บลูมเบิร์กอ้างคำกล่าวของกอร์เกียวาเมื่อวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐ

หัวเรือใหญ่ไอเอ็มเอฟกล่าวด้วยว่า นโยบายการค้าของสหรัฐ "จะส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดต่อประเทศและภูมิภาคที่บูรณาการกับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก" ซึ่งรวมถึงประเทศเศรษฐกิจขนาดกลางหลายแห่งและภูมิภาคเอเชีย

ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐอาจส่งผลให้ต้นทุนการระดมทุนของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่สูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้ต่ำ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึง "ตัวเลขการจ้างงาน" ที่พุ่งสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) "สามารถมีเวลารอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่" 

ทั้งนี้ IMF ได้ออกโรงเตือนนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิดมาแล้วว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตในระดับปานกลาง โดยในเดือนตุลาคม IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2024 จะขยายตัว 3.2% แต่การคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีการแก้ไข ซึ่งไอเอ็มเอฟจะเผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก World Economic Outlook ฉบับปรับปรุงในวันศุกร์ที่ 17 มกราคมนี้

กอร์เกียวาส่งสัญญาณถึงรายงานฉบับดังกล่าวว่าตัวเลขในภาพรวมจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก IMF มองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงทรงตัว แต่ก็มีความแตกต่างกันที่สำคัญอยู่ โดย "สหรัฐ" กำลังทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้มาก ในทางตรงกันข้าม สหภาพยุโรปค่อนข้างชะงักงัน ส่วนอินเดียอ่อนแอลงเล็กน้อย และจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายจากแรงกดดันภาวะเงินฝืดและอุปสงค์ภายในประเทศที่ต่ำ

ที่มา: Bloomberg