'สหรัฐ' ขาดดุลพุ่ง 40% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ งบประมาณติดลบ 7 แสนล้านดอลลาร์

'สหรัฐ' ขาดดุลพุ่ง 40% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ งบประมาณติดลบ 7 แสนล้านดอลลาร์

กระทรวงการคลังสหรัฐเผยตัวเลขขาดดุลในไตรมาสแรกปี 68 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบขาดดุลพุ่ง 40% งบประมาณติดลบ 7 แสนล้านดอลลาร์ ดันหนี้พุ่ง 36 ล้านล้านดอลลาร์

ซีเอ็นบีซี เผยรายงานล่าสุดจาก กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 พุ่งสูงขึ้นถึง 710,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตัวเลขในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดดุล 5.1 แสนล้านดอลลาร์ 

แม้ว่าตัวเลขขาดดุลในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสนี้ จะลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 33% อยู่ที่ 86,700 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขรวมของทั้งไตรมาสก็ยังคงสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ 

หนี้สาธารณะของประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น รายจ่ายภาครัฐที่สูงขึ้น และรายได้จากภาษีที่ลดลง ส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้หนี้พุ่งสูงเกิน 36 ล้านล้านดอลลาร์

แม้ว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นจะยังคงทรงตัวในระดับหนึ่งในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็สังเกตได้ว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวกลับมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดแตะระดับเกือบ 4.8% เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 0.4% 

ขณะเดียวกัน รายจ่ายภาครัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 11% ขณะที่รายรับกลับลดลง 2% สะท้อนภาระทางการคลังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกส่งผลให้ดอกเบี้ยที่รัฐบาลต้องจ่ายเพื่อชำระหนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2568 มีมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน และคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีต้นทุนทางการเงินจะเกิน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขค้นแซงสถิติในปี 2567

อ้างอิง CNBC Reuters