ยอดขาย 'สตาร์บัคส์' ลดลง 4 ไตรมาสติด สัญญาณยังน่าห่วงแม้รายได้ตามเป้า

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า เชนร้านกาแฟรายใหญ่ที่สุดในโลก "สตาร์บัคส์" (Starbucks) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ระหว่างเดือนต.ค.- ธ.ค. 2567 พบยอดขายสาขาร้านสตาร์บัคส์ทั่วโลก "ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน" โดยปรับตัวลดลง 4% และทราฟิกคนเข้าร้านลดลง 8% แม้ว่าซีอีโอคนใหม่ "ไบรอัน นิโคล" จะปรับแผนครั้งใหญ่ตั้งแต่ไตรมาสที่แล้วเพื่อพยายามดึงดูดลูกค้ากลับมา โดยเฉพาะการพลิกฟื้นธุรกิจในสหรัฐ 

สำหรับยอดขายสาขาใน "จีน" ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของสตาร์บัคส์รองจากตลาดสหรัฐนั้น ปรับตัวลดลง 6% แม้ว่าสตาร์บัคส์จะใช้กลยุทธ์การให้ส่วนลดมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับบรรดาร้านคู่แข่งที่ราคาถูกกว่า เช่น Luckin Coffee แบรนด์ดังสัญชาติจีนได้ก็ตาม

“แม้ว่าเราจะยังมีพื้นที่ให้พัฒนาได้อีก แต่เราก็กำลังดำเนินการตามแผน และมั่นใจว่าเรากำลังไปในเส้นทางที่ถูกต้อง” ซีอีโอสตาร์บัคส์ กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่บนเว็บไซต์บริษัท และเสริมด้วยว่าบริษัทเริ่มเห็น “การตอบสนองเชิงบวก” ต่อการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวรวมถึงการ "ยกเลิก" การชาร์จเงินค่านมทางเลือกที่ไม่ใช่นมวัว เช่น นมโอ๊ต การมุ่งเน้นทำการตลาดไปที่กาแฟ และการลดเมนูอาหาร และเครื่องดื่มลง 30% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2568

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีกำไร และรายได้ตามเป้าหมายที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยมีรายได้ 9.4 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่ LSEG คาดการณ์ไว้ที่ 9.31 พันล้านดอลลาร์ แต่ไม่เปลี่ยนจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 69 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 67 เซนต์ หรือทำกำไรได้ 780.8 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.02 พันล้านดอลลาร์ 

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ยังวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ และการรีโนเวทใหม่ให้ "น้อยลง" ในปีงบประมาณ 2568 เพื่อปลดล็อกเงินทุนสำหรับขับเคลื่อนการพลิกฟื้นใหม่ แต่ในระยะยาวนั้น ซีอีโอยังคงมองว่าจะมีดีมานด์การขยายร้านเพิ่มขึ้น

“เฉพาะในตลาดอเมริกา เรายังคงมองเห็นศักยภาพที่จะเพิ่มจำนวนร้านเป็นสองเท่า พร้อมกับปรับปรุงพอร์ตการลงทุนให้ดีขึ้น ซึ่งเราจะทำผ่านโครงการรีโนเวทร้าน การขยายสาขาใหม่ และการปิดร้านบางส่วนลง” นิโคล กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์