ภาษีรถยนต์ ‘ทรัมป์’ กระทบ 6 ค่ายยักษ์ญี่ปุ่น ราคาขายแพงขึ้น ดันแข่งขันเดือด

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานว่าแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25 % ของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” รวมถึงการขู่จัดเก็บภาษีอื่นๆ อาจทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 6 รายของญี่ปุ่นต้องได้รับผลกระทบ และสูญเสียเงินจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงถึง 3.2 ล้านล้านเยน หรือราว 7 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างๆ เช่น Mazda Motor และ Subaru ต้องแข่งขันกันยากขึ้น

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ประกาศว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น "ประมาณ 25%" ในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งการส่งออกรถยนต์จากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 28% ของการส่งออกทั้งหมด โดยปัจจุบันรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากญี่ปุ่นถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่อัตรา 2.5%

ตามข้อมูลจากบริษัท GlobalData พบว่าในปีที่ผ่านมา จากยอดขายรถยนต์ในสหรัฐทั้งหมด 16 ล้านคัน มีสัดส่วนรถยนต์นำเข้าอยู่ที่ 46% โดยเม็กซิโกเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาด 16% รองลงมาคือ เกาหลีใต้ที่ 9% และญี่ปุ่นที่ 8%

ภาษีทรัมป์ดันราคาขาย ‘แพงขึ้น’

Nomura Securities ได้คาดการณ์ว่า หากราคารถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น 1% จะทำให้ความต้องการซื้อลดลง 2%

เซอิจิ ซูกิอุระ นักวิเคราะห์จาก Tokai Tokyo Intelligence Laboratory ได้ประเมินผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นทั้ง 6 รายจะต้องเผชิญภายใต้นโยบายการปรับขึ้นภาษีที่ได้ประกาศไว้ โดยคำนวณจากราคาขายส่ง พบว่าการเก็บภาษีรถยนต์ที่ 25% จะทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 1.42 ล้านล้านเยน หรือราว 3.1 แสนล้านบาท และหากรวมการเรียกเก็บภาษีจากเม็กซิโก และแคนาดาที่ทรัมป์ได้ระงับไปก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวอาจพุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 3.2 ล้านล้านเยน หรือราว 7.2 แสนล้านบาท

 บริษัทวิจัย MarkLines ในประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนการส่งออกรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นไปยังสหรัฐจากยอดขายทั้งหมด อันดับที่ 1 คือ  Mazda อยู่ที่ 52%  รองลงมา Subaru 44%  และ Nissan Motor มีสัดส่วน 17%  ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตกระจายภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อลดผลกระทบต่อราคาขายปลีก

นิสสัน 

สำหรับ นิสสัน ซึ่งมียอดขายในสหรัฐอเมริกาคิดเป็นเกือบ 30% ของยอดขายทั่วโลก บริษัทมีโรงงานประกอบรถยนต์อยู่สองแห่งในสหรัฐ แต่รถยนต์บางรุ่น เช่น รถอเนกประสงค์ Kicks ผลิตในเม็กซิโก ในขณะที่รถ SUV Rogue บางรุ่นนำเข้าจากญี่ปุ่น

มาโกโตะ อูชิดะ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิสสันได้แสดงความกังวลว่า การที่สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโกจะ "ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของเรา" พร้อมทั้งเปิดเผยว่า บริษัทอาจต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตสำหรับรถยนต์นำเข้าบางรุ่น

สถานการณ์นี้อาจทำให้นิสสันต้องพิจารณาแผนที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะลดการผลิตในสหรัฐลง 25% ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ

ซูบารุ

Subaru ส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐเกือบครึ่งของยอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ดี  คัตสึยูกิ มิซูมะ กรรมการบริษัท ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับจากการขึ้นภาษีศุลกากร โดยให้เหตุผลว่า "ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน"

โตโยต้า

ในปี 2568 โตโยต้ามีการส่งออกรถยนต์จากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐอเมริกาจำนวน 530,000 คัน คิดเป็น 23% ของยอดขายในประเทศ และอีก 20% เป็นการนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ทั้งนี้ ผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์