บริษัท ‘ยุโรป - จีน’ แห่ IPO ตลาดหุ้นสหรัฐ ดันยอดจดทะเบียนพุ่งทำนิวไฮ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าบริษัทต่างๆ จากยุโรป และเอเชียมีแนวโน้มที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น “สหรัฐ” เพิ่มมากขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยมีปัจจัยดึงดูดจากการประเมินมูลค่าที่สูงกว่า และสภาพคล่องที่ดีกว่า ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้บริษัทเหล่านี้พิจารณาย้ายออกจากตลาดหลักทรัพย์ในประเทศของตน โดยหุ้นในยุโรป และเอเชียมีราคาซื้อขายต่ำกว่าหุ้นในสหรัฐ ประมาณ 35%

จากผลการวิจัยของบริษัทที่ปรึกษา EY พบว่าในปีที่ผ่านมา มีบริษัทต่างชาติเข้าระดมทุนผ่าน IPO ในสหรัฐ จำนวน 101 ราย เพิ่มขึ้น 51% จากปี  2566 โดยการเสนอขายหุ้น IPO จากบริษัทต่างชาตินี้มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของจำนวน IPO ทั้งหมดในสหรัฐ และนับเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะสร้างรายได้เพียงประมาณ 20% ของมูลค่า IPO ทั้งหมดก็ตาม 

จากการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งรายงานของ Bloomberg News ข้อมูลจาก PitchBook และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท พบว่ามีบริษัทที่มีฐานอยู่นอกสหรัฐหลายแห่งกำลังดำเนินการเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดสหรัฐโดยมีมูลค่ารวมประมาณ 130,000 ล้านดอลลาร์

เซธ รูบิน หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนหุ้นระดับโลกของ Stifel Financial Corp กล่าวว่าหลายบริษัทตระหนักดีว่าปัจจุบันตลาดสหรัฐเป็นตลาดที่มีปริมาณการซื้อขาย และสภาพคล่องสูงที่สุดในทุกภาคอุตสาหกรรม 

Filippo Gori จาก JPMorgan Chase & Co. เผยว่าบริษัทในยุโรป และเอเชียบางแห่งกำลังพิจารณาเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากความคาดหวังในการเติบโตที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากนโยบายสนับสนุนธุรกิจของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”

เงินทุนไหลออกจาก ‘ยุโรป’

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภูมิภาคยุโรปสูญเสียโอกาสในการระดมทุนผ่าน IPO หลายรายการ อาทิ Arm Holdings Plc บริษัทผู้ผลิตชิปสัญชาติอังกฤษที่เลือกเข้าจดทะเบียนในสหรัฐในปี 2566  นอกจากนี้ Ashtead Group ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนี FTSE 100 ได้ประกาศแผนย้ายการจดทะเบียนหลักไปยังสหรัฐ   สะท้อนยุโรปกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนจำนวนมาก  

David Boles จาก Freshfields เผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทในยุโรปที่กำลังพิจารณาเข้าระดมทุนผ่าน IPO ในสหรัฐมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วยุโรปกำลังพิจารณาย้ายไปเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

เพื่อยับยั้งเงินทุนที่อาจไหลออกอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังดำเนินการปฏิรูปเพื่อดึงดูดการจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การจดทะเบียน และการผลักดันโครงการ Capital Markets Union ที่ถูกพูดถึงมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

บริษัทจีนเจอความท้าทายในการ IPO

บริษัทจีนยังคงสนใจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา EY รายงานว่ามีบริษัทจีน 33 แห่งที่เข้าจดทะเบียนในสหรัฐ มีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ระดมทุนได้ถึง 13.2 พันล้านดอลลาร์ หลังจากเกิดความล้มเหลวในการเสนอขายหุ้น IPO ของ Didi Global Inc. บริษัทเรียกรถโดยสารในปี 2564

บริษัทจีนที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ยังคงต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทรถยนต์ไร้คนขับอย่าง Pony AI Inc. และ WeRide Inc. ประสบปัญหาความล่าช้าในการเสนอขายหุ้นที่นิวยอร์ก เนื่องจากต้องตอบคำถามจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ 

เหมิงหยู ลู หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนเอเชียของ Kirkland & Ellis LLP กล่าวว่า "การเสนอขายหุ้น IPO ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดการลงทุนใหม่อาจเกิดความล่าช้าได้ เนื่องจากรายละเอียดข้อกำหนดและกระบวนการกำกับดูแลที่จำเป็นยังไม่มีความชัดเจน แม้แต่สำหรับธุรกรรมที่ต้องแจ้งให้ทราบก็ตาม"

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์