หุ้นอาลีบาบาพุ่งแรง 12% คลาวด์ดัน กำไร-รายได้สูงเกินคาด

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ว่า บริษัท "อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด" (Alibaba) รายงานผลประกอบการรายไตรมาสสิ้นสุดเดือนธ.ค. 2567 เติบโตเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี และเติบโตขึ้นไปอีกขั้นในการฟื้นตัวหลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความผันผวนมาหลายปี โดยบริษัทรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ใน 2 กลุ่มธุรกิจที่สำคัญที่สุด ได้แก่ อีคอมเมิร์ซและบริการคลาวด์ ซึ่งมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ขับเคลื่อนด้วย 

บริษัททำกำไรสุทธิได้ 4.89 หมื่นล้านหยวน (เกือบ 2.3 แสนล้านบาท) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์โดย LSEG คาดการณ์ไว้ที่ 4.06 หมื่นล้านหยวน และสูงกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.44 หมื่นล้านหยวน 

สำหรับรายได้รวมอยู่ที่ 2.8 แสนล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.79 แสนล้านหยวน  

“ผลประกอบการไตรมาสนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากในกลยุทธ์ ‘ผู้ใช้มาก่อน-และการขับเคลื่อนด้วย AI’ ของเรา และการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นอีกครั้งของธุรกิจหลักของเรา” เอ็ดดี อู๋ ซีอีโอของอาลีบาบาระบุในแถลงการณ์

“รายได้จากคลาวด์ของเราเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองหลักที่ 13% โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เติบโตถึงสามหลักเป็นไตรมาสที่หกติดต่อกัน เมื่อมองไปข้างหน้า การเติบโตของรายได้ของ Cloud Intelligence Group ที่ขับเคลื่อนโดย AI จะยังคงเร่งตัวขึ้นต่อไป”

ผลประกอบการณ์ที่สูงเกินคาดส่งผลให้ราคาหุ้นอาลีบาบาในตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นกว่า 8% เมื่อวันที่ 20 ก.พ. และพุ่งขึ้นกว่า 12% ในตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ ตลอดทั้งปี 2568 ราคาหุ้นอาลีบาบาทั้งในตลาดหุ้นนิวยอร์กและฮ่องกงปรับตัวขึ้นไปแล้วมากถึงราว 50% ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ 

นอกจากนี้ยังทำให้ "แจ๊ก หม่า" ผู้ก่อตั้งอาลีบาบามีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก  947 ล้านดอลลาร์ เป็นเกือบ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่นักธุรกิจผู้นี้มีมูลค่าทรัพย์สินทะลุ 4 หมื่นล้านดอลลาร์