สหรัฐเก็บ ‘ทอง’ ไว้จริงไหม? หรือเป็นเพียงห้องว่างเปล่า
สหรัฐซึ่งอ้างว่ามีทองคำสำรอง ‘สูงที่สุดในโลก’ ถึงราว 8,000 ตัน โดยกว่าครึ่งหนึ่งของกระทรวงการคลัง ถูกเก็บไว้ที่คลังทอง ‘ฟอร์ตน็อกซ์’ ทว่า ทองคำเหล่านั้นยังคงมีอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงคลังที่ว่างเปล่า? ปธน.ทรัมป์-มัสก์เตรียมเข้าตรวจคลังนี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ไม่นานมานี้ ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมสหรัฐ (CPAC) ว่า “อีลอน มัสก์” หัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล จะทำการตรวจสอบ “ฟอร์ตน็อกซ์” (Fort Knox) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บทองคำสำรองของอเมริกาในรัฐเคนทักกี้ เพื่อให้แน่ใจว่าทองคำยังคงมีอยู่ที่นั่น
“เราจะเปิดประตู เราจะตรวจสอบฟอร์ตน็อกซ์” ทรัมป์กล่าว “ผมไม่อยากเปิดแล้วพบว่า ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย”
ไม่เพียงเท่านั้น อีลอน มัสก์ได้โพสต์บน X ตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของทองคำว่า “ใครยืนยันได้บ้างว่าทองคำไม่ได้ถูกขโมยจากฟอร์ตน็อกซ์? อาจจะยังอยู่ที่นั่น อาจจะไม่อยู่ก็ได้ ทองคำเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินของประชาชนชาวอเมริกัน! เราต้องการรู้ว่า มันยังคงอยู่ที่นั่นหรือไม่”
เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่มีทองคำสำรอง “สูงที่สุดในโลก” อยู่ที่ 8,133 ตัน ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดอันดับถัดไปอย่างเยอรมนี ดังนั้น หากในฟอร์ตน็อกซ์ ไม่ได้มีทองคำมากดังที่สหรัฐเคยอ้างไว้จริง ก็อาจสั่นคลอนระบบตลาดทองทั่วโลกได้
ขุมเก็บทองราว 14 ล้านล้านบาท
สำหรับคลังเก็บทองคำที่ชื่อ “ฟอร์ตน็อกซ์” ตั้งอยู่ในรัฐเคนทักกี้ โดยเก็บสำรองทองตั้งแต่ปี 1937 อีกทั้งยังถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการกองทัพ และเป็นที่จัดฝึกอบรมกองทัพประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในฤดูร้อนด้วย
ฟอร์ตน็อกซ์ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี้ไปทางใต้ประมาณ 56 กิโลเมตร และมีพื้นที่มากกว่า 250,000 ไร่ โดยถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในชื่อค่ายน็อกซ์ (Camp Knox) ซึ่งเป็นสนามฝึกปืนใหญ่ที่ตั้งชื่อตามพลเอกเฮนรี น็อกซ์ ตามข้อมูลจากมูลนิธิสังคมประวัติศาสตร์แห่งรัฐเคนทักกี้
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพได้สร้างพลหุ้มเกราะที่ฟอร์ตน็อกซ์ โดยสั่งให้ทหารหลายพันคนเดินทางไปที่ฟอร์ตน็อกซ์เพื่อฝึกรถถัง จนที่นั่นได้รับการขนานนามว่าเป็น “บ้านแห่งกองทัพม้าและเกราะ” เป็นระยะเวลานานเกือบ 80 ปี
ตามข้อมูลจากโรงกษาปณ์สหรัฐ ปริมาณทองคำที่เก็บอยู่ที่ฟอร์ตน็อกซ์ในปัจจุบันมีจำนวนรวม 147.3 ล้านออนซ์ โดย “กว่าครึ่งหนึ่งของทองคำที่เก็บโดยกระทรวงการคลัง” อยู่ที่นั่น และทองคำที่เคยถูกนำออกไปมีเพียงจำนวนเล็กน้อย เพื่อทดสอบความบริสุทธิ์ในระหว่างการตรวจสอบตามกำหนดการประจำปี
เมื่อทองคำมีราคาเกิน 2,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในตลาดเปิดเมื่อวันจันทร์ นั่นหมายความว่า ทองคำที่ฟอร์ตน็อกซ์มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 436,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 14 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรปอย่าง LVMH
คลังฟอร์ตน็อกซ์ปลอดภัยจริงไหม
ตามข้อมูลจากสำนักข่าว The Associated Press คลังเก็บทองคำนี้ได้รับการมองว่าเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูงมาก โดยไม่มีคนใดที่รู้ทุกขั้นตอนในการเปิดตู้นิรภัย
สิ่งเดียวที่รู้กันในที่สาธารณะคือ วันที่สร้างและวิธีการก่อสร้างของคลังนี้ ในปี 1936 คลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิต 16,000 ลูกบาศก์ฟุต ปูนซีเมนต์ 4,200 ลูกบาศก์หลา เหล็กเสริม 750 ตัน และเหล็กโครงสร้าง 670 ตัน อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
การเยี่ยมชมครั้งแรกเคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 เมื่อคลังทองถูกเปิดให้กับนักข่าวและคณะผู้แทนจากรัฐสภา ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ เป็นเพียงบุคคลเดียวที่สามารถเข้าถึงตู้นิรภัยได้
การเยี่ยมชมครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2017 เมื่อสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในขณะนั้น แมตต์ เบวิน ผู้ว่าการรัฐเคนตักกี้ และตัวแทนจากรัฐสภาได้เยี่ยมชมสถานที่
ทองในคลังฟอร์ตน็อกซ์ยังคงอยู่หรือไม่
ถึงแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานถึงการหายไปของทองคำที่ฟอร์ตน็อกซ์จนถึงตอนนี้ แต่มัสก์ยังคงโพสต์บน X โดยกล่าวว่า ควรมีการ “ไลฟ์สด” แบบเดินชมคลังเก็บทองนี้อย่างโปร่งใส
แรนด์ พอล สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเคนทักกี้ (พรรครีพับลิกัน) ตอบกลับโพสต์ของมัสก์ที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบฟอร์ตน็อกซ์ประจำปีว่า “ทำเลย”
ส่วนทรัมป์ก็บอกกับนักข่าวว่า “เราหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย เราจะไปที่ฟอร์ตน็อกซ์ เพื่อให้มั่นใจว่า ทองคำยังคงอยู่ที่นั่น ถ้าทองคำไม่ได้อยู่ที่นั่น เราจะโกรธมาก”
ด้านมนูชินกล่าวว่า “การตรวจสอบฟอร์ตน็อกซ์ จะเป็นเรื่องง่ายหากทรัมป์ต้องการ”
“ทองคำยังคงอยู่ที่นั่นเมื่อผมไปเยี่ยมชม และหวังว่าไม่มีใครย้ายไปไหน ผมมั่นใจว่าพวกเขาคงไม่ได้ย้ายมันไป” เขากล่าวเสริม
ขณะที่สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในปัจจุบันได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า “เราทำการตรวจสอบทุกปี ผมสามารถบอกชาวอเมริกันได้ว่า ทองคำทั้งหมดยังคงอยู่ที่นั่น” เบสเซนต์กล่าว โดยอ้างถึงการตรวจสอบที่ทำในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
