สิงคโปร์ถูกฉ้อโกงทุบสถิติปีที่แล้ว เหยื่อสูญเงิน 2.7 หมื่นล้าน

สิงคโปร์ถูกฉ้อโกงทุบสถิติปีที่แล้ว เหยื่อสูญเงิน 2.7 หมื่นล้าน

ปี '67 คนสิงคโปร์ 'สูญเงินจากคดีฉ้อโกงสูงสุดทุบสถิติใหม่' กว่า 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อน คดีเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซมากที่สุด ส่วนคริปโทคิดเป็น 1 ใน 4

สำนักงานตำรวจสิงคโปร์ (SPF) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีชาวสิงคโปร์สูญเงินจากการถูกหลอกลวงฉ้อโกง "สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์" ถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2.78 หมื่นล้านบาท) และเพิ่มขึ้นถึง 70.6% จากปี 2566 ซึ่งมีความเสียหายอยู่ที่ 651.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ขณะที่จำนวนคดีเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เป็น 51,501 คดี 

ในบรรดาความเสียหายทั้งหมดนั้น การฉ้อโกงเกี่ยวกับ "คริปโทเคอร์เรนซี" คิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 หรือประมาณ 24.3% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากในปี 2566

ขณะที่กลโกงเกี่ยวกับ "อีคอมเมิร์ซ" มีจำนวนคดีมากที่สุดถึง 11,665 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 440 ล้านบาท

"กว่า 70% ของคดี มีมูลค่าความเสียหายไม่ถึง 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 1.26 แสนบาท) ทว่าการเพิ่มขึ้นของมูลค่าความเสียหายโดยรวม มาจากคดีจำนวนน้อยแต่มีมูลค่าความเสียหายสูงมาก" สำนักงานตำรวจสิงคโปร์ระบุ

ทั้งนี้มี 4 คดีที่รวมกันแล้วคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึงราว 6,000 ล้านบาท หรือเป็นสัดส่วนสูงถึง 21.4% ของความเสียหายทั้งหมด

แม้ว่า "ผู้สูงอายุ" ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 8.4% ของเหยื่อ แต่ค่าเฉลี่ยของมูลค่าความเสียหายต่อเหยื่อในกลุ่มผู้สูงอายุนั้น นับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุอื่นๆ

จากยอดเงินที่สูญเสียทั้งหมดนี้ ตำรวจสิงคโปร์เปิดเผยว่าศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงของประเทศสามารถกู้คืนเงินมาได้กว่า 4,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเดือนม.ค. 2568 ที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้ออกกฎหมายใหม่ที่ให้อำนาจตำรวจในการอายัดบัญชีธนาคารของเหยื่อที่อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม