‘ฮ่องกง’ ปลดข้าราชการ 10,000 คน ลงทุน AI ฟื้นฟู ‘การคลัง’ หลังขาดดุลพุ่ง

‘ฮ่องกง’ ปลดข้าราชการ 10,000  คน ลงทุน AI ฟื้นฟู ‘การคลัง’ หลังขาดดุลพุ่ง

รัฐบาล ‘ฮ่องกง’ ออก 2 นโยบายฟื้นฟู ‘การคลัง’ หลังขาดดุลเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากคาดการณ์ เตรียมปลดข้าราชการ 10,000 คนในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมอัดฉีดงบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงพัฒนา AI

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน “ฮ่องกง” ออกนโยบายลดการใช้จ่าย โดยการลดตำแหน่งข้าราชการลง 10,000 ตำแหน่ง  นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างจริงจัง เพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอลง

พอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกงกล่าวในการแถลงงบประมาณประจำปีว่า นโยบายนี้เป็นแนวทางที่ชัดเจนในการบรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูดุลยภาพทางการคลัง 

หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา การขาดดุลของฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็น 87,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเกือบสองเท่าของตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 48,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เนื่องจากรายได้จากการขายที่ดินลดลงอย่างมาก

2 มาตรการฟื้นฟู ‘การคลัง’

นโยบายดังกล่าวจะมีการเลิกจ้างข้าราชการ 10,000 ตำแหน่งภายในเดือนเมษายน 2570  ซึ่งคิดเป็น 2% ของจำนวนข้าราชการทั้งหมด  นอกจากนี้ รัฐบาลจะตรึงเงินเดือนของข้าราชการไว้ในปีนี้ด้วย

แผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการคลังนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายภาครัฐลงได้ทั้งหมด 7% นับจากปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2571 ซึ่งการลดค่าใช้จ่ายนี้จะช่วยวางรากฐานทางการคลังที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาในอนาคต 

 นอกจากนี้ ฮ่องกงได้จัดสรรงบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้กับสถาบันวิจัยและพัฒนา AI โดยรัฐบาลฮ่องกงเตรียมที่จะจ้างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มาช่วยฝึกอบรมด้าน AI ให้กับนักเรียนนักศึกษา ผ่านหลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความสามารถด้านนี้ตั้งแต่ยังเด็ก

เรื่องนี้  สอดคล้องกับนโยบายของจีนในการสร้างความแข็งแกร่งและพึ่งพาตนเองได้ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ รวมถึงหุ่นยนต์ 

เศรษฐกิจฮ่องกงรับแรงกระแทกจาก ‘จีน’

เศรษฐกิจฮ่องกงได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่มแรงกดดันต่อจีนในด้านการค้า เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้ประกาศเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีนและฮ่องกง รัฐบาลฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจนี้ โดยกล่าวว่า สหรัฐละเลยสถานะของฮ่องกงในฐานะเขตปกครองพิเศษ

แหล่งรายได้สำคัญหดตัว

สถานะทางการเงินของฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้จากค่าเบี้ยประกันที่ดินที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องจ่ายเพื่อใช้ที่ดินลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ราคาบ้านในฮ่องกงตกลงเกือบ 30%  

การขายที่ดินเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลมาโดยตลอด โดยในอดีตเคยสร้างรายได้มากกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดของรัฐบาล แต่ปัจจุบันตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 5% เท่านั้น ปัจจุบันทุนสำรองทางการคลังของฮ่องกงมีมูลค่าประมาณ 647,300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง