หุ้น ‘Nvidia’ ร่วงแรง กังวลทรัมป์คุมส่งออกชิป เข้มกว่ายุคไบเดน

หุ้น ‘Nvidia’ ร่วงแรง กังวลข้อจำกัดส่งออกชิปไปจีนที่เข้มขึ้น รวมถึงนโยบายภาษีทรัมป์ที่สร้างความไม่มั่นคงในอนาคตเติบโตของบริษัท
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. หุ้นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์อย่าง “อินวิเดีย” (Nvidia) ปรับตัวร่วงหนักถึงราว 11% ในวันเดียว จากระดับราคา 135 ดอลลาร์ สู่ราคา 120 ดอลลาร์ตอนปิดตลาด ทั้งที่รายได้และกำไรของไตรมาส 4 ก็สูงกว่าคาด
เหตุผลเพราะนักลงทุนกำลังกังวลอนาคตการเติบโตของ Nvidia ท่ามกลางประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการจำกัดชิปที่ส่งไปจีน รวมถึงการที่ทรัมป์ยืนยันว่า ภาษีการค้า 25% ต่อเม็กซิโกกับแคนาดา รวมถึงภาษีอีก 10% ต่อจีน ยังคงจะมีผลบังคับใช้ตามเดิม จึงเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐที่อ่อนไหวง่ายให้ร่วง
ในขณะนี้ รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาจำกัดการขายชิป Nvidia กับจีนให้เข้มงวดขึ้น ภายหลังการเปิดตัวโมเดล DeepSeek AI โดยมาตรการจำกัดดังกล่าวอาจครอบคลุมถึงชิปล้ำสมัยบางรุ่นของ Nvidia รวมถึงชิป AI รุ่น H20
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โมเดล AI ต้นทุนต่ำของสตาร์ทอัพจีน DeepSeek ได้กระตุ้นความสงสัยในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ Nvidia จัดสรรไว้สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI
ความกังวลการใช้จ่ายในชิป AI ระดับไฮเอนด์ของ Nvidia ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปกว่าครึ่งล้านล้านดอลลาร์ภายในวันเดียวเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในวอลล์สตรีท
“ตอนนี้ทุกคนกังวลเกี่ยวกับการลงทุนใน AI ผลประกอบการของ Nvidia เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะขจัดความกังวลเหล่านั้นได้” มิตสึฮิโระ ชิบาตะ นักกลยุทธ์อาวุโสจาก Daiwa Securities กล่าว
เรียกร้องทรัมป์ทบทวนข้อจำกัดส่งออกชิป
นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ได้แก่ Microsoft, Amazon.com และ Nvidia กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์ทบทวนข้อจำกัดในการส่งออกชิป ซึ่งพวกเขากลัวว่าจะผลักดันพันธมิตรของสหรัฐไปสู่คู่แข่งชาวจีน
ก่อนหน้านั้นในยุคไบเดน กฎระเบียบชิปสหรัฐได้จัดประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้อยู่ในระดับต่าง ๆ ในการจำกัดการส่งออกชิปที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยแบรด สมิธ ประธานของ Microsoft มองว่า นโยบายนี้ได้จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังตลาดที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และอาจทำให้ประเทศเหล่านั้นหันไปหาจีนแทนสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง
“หากกฎระเบียบชิปของไบเดนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง จะทำให้จีนได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในการกระจายเทคโนโลยี AI ของตนเองในระยะยาว ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม 5G เมื่อสิบปีก่อน” สมิธเขียนในบล็อกของบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดี
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น แอนดี้ แจสซี่ ซีอีโอของ Amazon ได้กล่าวถึงประเด็นที่คล้ายกัน
“ผมไม่แน่ใจว่า รัฐบาลชุดนี้มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมอยากจะบอกว่า เราก็มีความกังวลเหมือนกันถึงข้อจำกัดกับบางประเทศที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐ” แจสซี่กล่าว
“พวกเขาจะต้องการชิปเพิ่มขึ้น และผมคิดว่า หากเราไม่ดำเนินการ เราก็จะยอมสูญเสียธุรกิจและความสัมพันธ์เหล่านั้นให้กับประเทศอื่นที่สามารถจัดหาชิปเหล่านั้นได้” แจสซี่กล่าว “ผมเชื่อว่าเราจะดีกว่าในการเป็นพันธมิตรกับพวกเขา”
Nvidia ก็มีความกังวลผลกระทบของข้อจำกัดการส่งออกที่มีต่อธุรกิจในจีน “ยอดขายศูนย์ข้อมูลในจีนยังคงต่ำกว่าระดับที่เห็นก่อนที่จะมีการควบคุมการส่งออก” โคเล็ตต์ เครสส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Nvidia กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์และทีมงานของเขากำลังร่างกฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ และกดดันพันธมิตรสำคัญให้ขยายข้อจำกัดต่ออุตสาหกรรมชิปของจีน ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ทำเนียบขาวต้องการจำกัดความสามารถทางเทคโนโลยีของปักกิ่งให้เข้มงวดยิ่งกว่ายุคไบเดน
อ้างอิง: bloomberg, yahoo, bloomberg(2)