ทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐต่อยูเครนทั้งหมด

ทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐต่อยูเครนทั้งหมด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครน หลังจากปะทะคารมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รอยเตอร์สอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อที่กล่าวว่า“ประธานาธิบดีกล่าวอย่างชัดเจนว่าเขามุ่งเน้นที่สันติภาพ เราต้องการให้พันธมิตรของเรามุ่งมั่นต่อเป้าหมายนั้นเช่นกัน เรากำลังหยุดและทบทวนความช่วยเหลือของเราเพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือของเรามีส่วนช่วยในการแก้ปัญหา” 

สำนักงานของประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นของรอยเตอร์สทันที

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์พลิกกลับนโยบายของสหรัฐต่อยูเครนและรัสเซียเมื่อเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม โดยเปลี่ยนจุดยืนที่ปรองดองมากขึ้นต่อมอสโก และหลังจากการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดกับเซเลนสกีที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์(28 ก.พ.) ซึ่งทรัมป์วิจารณ์เซเลนสกีว่าไม่ได้รู้สึกขอบคุณมากเพียงพอต่อวอชิงตันที่ให้การสนับสนุนในสงครามกับรัสเซีย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวอีกครั้งว่าเซเลนสกีควรชื่นชมการสนับสนุนของอเมริกาให้มากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาตอบโต้ด้วยความโกรธเคืองต่อรายงานของสำนักข่าวเอพีที่อ้างคำพูดของเซเลนสกีว่าการสิ้นสุดลงของสงคราม “ยังอยู่ห่างไกลมากๆ”

ทรัมป์โพตส์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ของเขา ว่า “นี่เป็นคำกล่าวที่เลวร้ายที่สุดที่เซเลนสกีเคยพูดมา และอเมริกาจะไม่ยอมทนกับมันอีกต่อไป!”

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังระบุในวันจันทร์ว่าข้อตกลงในการเปิดเหมืองแร่ธาตุของยูเครนเพื่อให้สหรัฐฯ เข้าไปลงทุนนั้นยังคงสามารถตกลงกันได้ แม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับเคียฟก็ตาม ในขณะที่ผู้นำยุโรปเสนอข้อเสนอให้หยุดยิงระหว่างรัสเซียกับยูเครน

รัฐบาลทรัมป์มองว่าข้อตกลงแร่ธาตุเป็นวิธีการของอเมริกาในการเอาเงินคืนบางส่วนจากเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่มอบให้แก่ยูเครนในด้านการเงินและความช่วยเหลือทางการทหารตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตีเมื่อ 3 ปีก่อน

เมื่อทรัมป์ถูกถามในวันจันทร์ว่าข้อตกลงดังกล่าวสิ้นสุดลงหรือไม่ ทรัมป์ตอบที่ทำเนียบขาวว่า “ไม่ ผมไม่คิดอย่างนั้น”

ทรัมป์กล่าวว่าเรื่องนี้เป็น “เรื่องใหญ่สำหรับเรา” และกล่าวว่าเขาจะรายงานสถานการณ์ล่าสุดในคืนวันอังคาร โดยจะกล่าวปราศรัยต่อการประชุมร่วมของทั้งสองสภา