เปิดแผนสันติภาพยูเครน พันธมิตรยุโรปรับบทนำ

ประธานาธิบดียูเครนเผย จะทำงานร่วมกับยุโรปกำหนดเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพนำเสนอสหรัฐ ด้านผู้นำยุโรปให้คำมั่นเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม ในวันจันทร์ (3 มี.ค.68) หลังจากประชุมร่วมกับผู้นำประเทศยุโรปที่กรุงลอนดอนของอังกฤษในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.68)
“เราต้องการสันติภาพ ไม่ใช่สงครามไม่รู้จบ ในอนาคตอันใกล้พวกเราทุกคนในยุโรปจะกำหนดจุดยืนร่วม แนวทางที่เราต้องบรรลุให้ได้ และเป็นแนวทางที่ไม่สามารถลดทอนได้ จุดยืนเหล่านี้จะนำเสนอต่อพันธมิตรของเราในสหรัฐ” เซเลนสกี กล่าว
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส “และอื่นๆ” จะทำงานร่วมกับยูเครนถึงแผนการยุติการสู้รบ จากนั้นจะนำเสนอต่อรัฐบาลวอชิงตัน
เอเอฟพี ระบุว่า การประชุมผู้นำยุโรปที่กรุงลอนดอนซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 18 พันธมิตร เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญยิ่งสำหรับยูเครนที่ไม่แน่ว่าสหรัฐจะสนับสนุนต่อไปหรือไม่ หลังถูกรัสเซียรุกรานมาสามปี
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ตำหนิเซเลนสกีต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าทรัมป์ตั้งใจจะบีบให้รัฐบาลเคียฟทำข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
- เล็งหยุดยิงหนึ่งเดือน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยกับหนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร หลังบินกลับจากการประชุมว่า ฝรั่งเศส และอังกฤษ ต้องการเสนอการหยุดยิงบางส่วนในอากาศ, ในทะเล และต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ทั้งสตาร์เมอร์ และมาครง กล่าวตรงกันว่า ทั้งสองประเทศเตรียมการส่งทหารไปยูเครนเพื่อช่วยดูแลหากมีการหยุดยิง สตาร์เมอร์กล่าวด้วยว่า เมื่อไม่มีการรับประกันการมีส่วนร่วมของสหรัฐ “ยุโรปก็ต้องทำงานหนัก”
- แนะยุโรปเพิ่มงบฯ กลาโหม
มาครง กล่าวด้วยว่า ประเทศยุโรปควรเพิ่มค่าใช้จ่ายป้องกันประเทศ 3-3.5% ของจีดีพี เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงท่าทีของสหรัฐ และการทหารของรัสเซีย
ผู้นำยุโรปหลายคนกล่าวว่า พวกเขาต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งอาจช่วยให้ทรัมป์เสนอการรับประกันความปลอดภัยหากเกิดสันติภาพขึ้นในยูเครน
“หลังจากไม่ได้ลงทุนมานานมาก ตอนนี้ถึงเวลาสำคัญที่สุดที่ต้องเพิ่มการลงทุนด้านกลาโหมเป็นเวลายาวนาน” เออร์ซูลา วอน เดอ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) องค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวกับผู้สื่อข่าวและว่า ยุโรปจำเป็นต้องเปลี่ยน “ยูเครนให้เป็นเม่นเหล็กที่ผู้รุกรานเขมือบไม่ได้”
- เปิดจุดอ่อนยุโรป
ยุโรปนั้นไม่มีอาวุธ และคลังกระสุนมหาศาลเหมือนอย่างที่สหรัฐมี จึงหวังจูงใจให้ทรัมป์เชื่อว่ายุโรปสามารถดูแลตนเองได้ แต่รัสเซียจะปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพก็ต่อเมื่อข้อตกลงนั้นได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
การเจรจาระหว่างยุโรปกับสหรัฐจึงมุ่งเน้นให้รัฐบาลวอชิงตันสนับสนุนบทบาทรักษาสันติภาพของยุโรป อาจอยู่ในรูปของการป้องกันทางอากาศ, ข่าวกรอง และการเฝ้าระวัง และสนับสนุนมากขึ้นในกรณีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียต้องการได้ดินแดนเพิ่มอีก
การจะให้ทรัมป์เห็นชอบ ชาติยุโรปต้องเพิ่มงบประมาณกลาโหม และส่งสัญญาณให้เห็นว่าพร้อมมีส่วนร่วมแสดงบทบาทรักษาสันติภาพ ซึ่งสตาร์เมอร์รู้ดีว่ายุโรปยากจะได้มติเอกฉันท์ในเรื่องนี้
ก่อนเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์ก่อน สตาร์เมอร์เพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศของสหราชอาณาจักรไปแล้ว ขณะที่มาร์ก รุตเต เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวโดยไม่ระบุรายละเอียดว่า ผู้นำยุโรปจำนวนหนึ่งได้ร่างแผนงบประมาณกลาโหมใหม่เองแล้วในที่ประชุม
- เครมลินไม่เชื่อน้ำยายุโรป
ดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวในวันจันทร์ (3 มี.ค.68) ว่า คำมั่นจากผู้นำยุโรปที่จะตั้งพันธมิตรเพื่อสันติภาพยูเครน รวมถึงข้อตกลงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากอังกฤษจะเป็นเหตุให้สงครามยืดเยื้อ
“ชัดเจนว่านี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนสันติภาพ แต่จะเปิดทางให้เป็นปรปักษ์กันต่อเนื่อง ตอนนี้ต้องการโครงการสร้างสรรค์ (เพื่อสันติภาพ) เป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องมีใครบีบเซเลนสกีให้เปลี่ยนจุดยืน เขาไม่ได้ต้องการสันติภาพ ต้องมีบางคนทำให้เซเลนสกีต้องการสันติภาพ” เพสคอฟ กล่าว
- รอดูสหรัฐรับลูกหรือไม่
นักวิเคราะห์กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า ข้อเสนอของยุโรปมีรายละเอียดน้อยมากถึงการบรรลุสันติภาพถาวรในยูเครน และไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้างเข้ามามีส่วนร่วม รัสเซียปฏิเสธแนวคิดส่งทหารยุโรปไปยูเครน ขณะที่สหรัฐยืนกรานไม่มีแผนส่งทหารอเมริกันเข้าไปรักษาสันติภาพ
เกซีน เวเบอร์ นักวิจัยกองทุนเยอรมันมาร์แชล กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า การประชุมผู้นำล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้ยุโรปมองเห็นความจำเป็นที่ต้องมีบทบาทนำในการสนับสนุนยูเครน “โดยเฉพาะเมื่อความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับยูเครนมาถึงจุดสูงสุด”
“ตอนนี้เราอยู่ในสถานะรอ และดูว่าจะสามารถดึงวอชิงตันเข้ามามีส่วนร่วมกับแผนการที่นำเสนอไปได้ในระดับใด” เวเบอร์กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์