ส่องงบการเงิน ‘หุ้น 7 นางฟ้า’ 2024 ‘รายได้-กำไร’ ส่งสัญญาณชะลอตัว?

ส่องงบการเงิน ‘หุ้น 7 นางฟ้า’ 2024 กำลังตกสวรรค์ หลัง ‘รายได้-กำไร’ ต่ำเป้า ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 หรือรายได้ 7 บริษัทผ่าน ‘จุดพีค’ มาแล้ว
ส่องงบการเงิน ‘หุ้น 7 นางฟ้า’ 2024 กำลังตกสวรรค์ หลัง ‘รายได้-กำไร’ ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5
หุ้นกลุ่ม “7 นางฟ้า” Magnificent 7 ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet (Google), Amazon, Nvidia, Tesla และ Meta มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าเป้าหมายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
7 หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในช่วงปี 2023 และ 2024 กลับเผชิญกับภาวะชะลอตัวในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งเห็นผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของบางตัวเป็น “ลบ”
รายได้ 7 บริษัทผ่าน ‘จุดพีค’ มาแล้ว?
เมื่อการประกาศผลประกอบการสิ้นสุดลง นักลงทุนเริ่มกังวลว่าการเติบโตของรายได้อาจผ่านพ้นจุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2566 และชะลอตัวลงต่อเนื่อง
นักลงทุนให้ความกังวล 2 ปัจจัยหลักเกี่ยวกับภาษีและค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนมหาศาลใน AI ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะให้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังหรือไม่ ยิ่งทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ ในปี 2565 หุ้นกลุ่มนี้ไม่สามารถทำยอดขายได้เกินความ “ชะลอตัว “ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มพิจารณาที่จะกระจายการลงทุนออกจากหุ้นเทคโนโลยีเหล่านี้
การเติบโตของกำไรที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาษี และความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าตลาดโดยรวมและด้วยมูลค่าตลาดมหาศาล จึงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อดัชนี Nasdaq Composite และ S&P 500 โดยมีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของน้ำหนักรวมในดัชนี
‘7 หุ้นนางฟ้า’ กำลังตกสวรรค์
ในช่วงการประกาศผลประกอบการล่าสุด โดยภาพรวมแล้ว รายได้ของบริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 (ไม่รวม Tesla) นั้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาในเชิงบวก แต่ราคาหุ้นของบริษัทถึง 4 ใน 7 แห่งกลับลดลงหลังจากที่ประกาศผลประกอบการ
เมื่อในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งถูกเทขายอย่างหนัก สาเหตุหลักมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเข้ามาของบริษัท DeepSeek ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหม่ แม้ว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงต้นปีอาจเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ที่เคยเป็นผู้นำตลาดเริ่มสูญเสียความนิยม นักลงทุนเริ่มหันไปลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวแทน
การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดในปีนี้ เนื่องจากหุ้นในดัชนี S&P 500 ที่มีความหลากหลายมากกว่า กลับมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบทบาทผู้นำตลาดกำลังเปลี่ยนไป