ความมั่งคั่ง 5 มหาเศรษฐีโลก หายไป 7 ล้านล้านบาท หลังทรัมป์กลับมามีอำนาจ

ความมั่งคั่ง 5 มหาเศรษฐีโลก หายไป 7 ล้านล้านบาท หลังทรัมป์กลับมามีอำนาจ

หลัง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ กลับมามีอำนาจ เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลก ที่เคยยืนเคียงข้างเขา กลับต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ‘ทรัพย์สินรวมกว่า 7 ล้านล้านบาท’ ของอีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบโซส, เซอร์เกย์ บริน, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ หายวับไปกับตา

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” รับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 เขาได้ยืนอยู่ข้างเหล่าคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ไม่ว่าอีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบโซส และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ต่างก็มีทรัพย์สินมหาศาลจากมูลค่าตลาดหุ้นที่คึกคัก

อย่างไรก็ตาม 7 สัปดาห์ต่อมา เรื่องราวกลับพลิกผันอย่างน่าตกใจ มหาเศรษฐี 5 คนที่นั่งอยู่ข้างหลังทรัมป์ในโดมของรัฐสภา ได้สูญเสียทรัพย์สินรวมกันถึง 209,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 7 ล้านล้านบาท ตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กดังนี้

1. อีลอน มัสก์ ความมั่งคั่งลดลง 148,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5 ล้านล้านบาท)

แต่เดิม อีลอน มัสก์ ซีอีโอของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla วัย 53 ปี มีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดที่ 486,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 16 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม โดยกำไรส่วนใหญ่ของเขามาจาก Tesla ซึ่งหุ้นของบริษัทเกือบจะเพิ่มเป็นเท่าตัวหลังการเลือกตั้งสหรัฐ 

แต่หลังจากนั้น Tesla ก็ “สูญเสียกำไรหุ้นทั้งหมดนั้นไป” ผู้บริโภคในยุโรปเริ่มไม่พอใจกับการสนับสนุนของมัสก์ต่อการเมืองฝ่ายขวา โดยยอดขายของ Tesla ในเยอรมนีลดลงมากกว่า 70% ในสองเดือนแรกของปี และยอดส่งออกไปยังจีนก็ร่วง 49% เมื่อเดือนที่แล้ว สู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022

 

2. เจฟฟ์ เบโซส ความมั่งคั่งลดลง 29,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 9.8 แสนล้านบาท)

เบโซส วัย 61 ปี เจ้าของอีคอมเมิร์ซ Amazon.com ซึ่งเคยขัดแย้งกับทรัมป์เกี่ยวกับการบริการไปรษณีย์ และการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ ได้เปลี่ยนท่าทีไปแสดงความยินดีกับทรัมป์แทน

Amazon.com บริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ในเดือนธันวาคม และเบโซสยังรับประทานอาหารกับประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่เบโซสประกาศว่า หนังสือพิมพ์ของเขาจะให้ความสำคัญกับเสรีภาพส่วนบุคคล และตลาดเสรี แต่หุ้นของอเมซอนลดลง 14% นับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม

3. เซอร์เกย์ บริน ความมั่งคั่งลดลง 22,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.5 แสนล้านบาท)

บริน วัย 51 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Google กับแลร์รี เพจ และยังคงถือหุ้น 6% ของบริษัท เคยเข้าร่วมประท้วงต่อนโยบายเข้าเมืองของรัฐบาลทรัมป์ที่สนามบินซานฟรานซิสโกในปี 2017 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน บรินก็รับประทานอาหารกับเขาที่รีสอร์ต มาร์อาลาโก ในรัฐฟลอริดาในเดือนถัดไป โดยหุ้นของ Alphabet ซึ่งเป็นเจ้าของ Google ร่วงกว่า 7% ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่บริษัทไม่สามารถทำรายได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ผ่านมา 

4.มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ความมั่งคั่งลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 แสนล้านบาท)

ในช่วงต้นปีนี้ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook เป็นผู้ชนะโดดเด่นในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี 7 นางฟ้า แม้ว่าดัชนีสหรัฐ S&P 500 เริ่มแผ่วลง แต่หุ้น Meta กลับเพิ่มขึ้น 19% จากกลางเดือนมกราคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา หุ้นของเมตาก็สูญเสียกำไรทั้งหมดที่ได้มา ดัชนี 7 หุ้นนางฟ้าสหรัฐลดลง 20% นับตั้งแต่จุดสูงสุดในกลางเดือนธันวาคม

5. เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ความมั่งคั่งลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 แสนล้านบาท)

อาร์โนลต์ในวัย 76 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอาณาจักร LVMH ที่มีแบรนด์ดังอย่างหลุยส์ วิตตอง และบูลการิ เขายังเป็นมิตรกับทรัมป์มาเป็นเวลาหลายสิบปี 

ในปี 2024 หุ้น LVMH เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งสหรัฐจนถึงปลายเดือนมกราคม แต่หลังจากนั้นก็สูญเสียกำไรส่วนใหญ่ไป นักวิเคราะห์จากมอร์นิ่งสตาร์มองว่า ภาษี 10-20% ที่อาจเรียกเก็บกับสินค้าหรูหราจากยุโรป อาจทำให้ยอดขายตกต่ำ ซึ่งตอนนี้ยอดขาย LVMH ก็ยังคงประสบปัญหาอยู่
 

 

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์