แบงก์จีนแข่งเดือด! หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

‘ธนาคารจีน’ กำลังเดินหน้าลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงสู่ ‘ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์’ ท่ามกลางความพยายามรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “ธนาคารจีน” กำลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการบริโภคลงสู่ “ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์” ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนก็เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโต และรับมือกับภาษีทรัมป์
ในขณะนี้ ธนาคารต่างๆ ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน และหางโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่สำคัญ กำลังเสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายปีต่ำสุดเพียง 2.58% สำหรับการใช้จ่ายในร้านอาหารและการช้อปปิ้ง เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เคยสูงถึง 10% เมื่อประมาณสองปีก่อน
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ เพื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ซบเซามายาวนาน โดยสำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติได้เรียกร้องให้ธนาคาร “ขยายการปล่อยสินเชื่อ” เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ขณะเดียวกันต้องกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสม เช่น วงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย
“อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างธนาคารท่ามกลางความต้องการสินเชื่อที่ต่ำ” เมย์ หยาน หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านการเงินเอเชียของ UBS Group AG กล่าว “สินเชื่อราคาถูก อาจช่วยกระตุ้นการบริโภคได้ในระดับหนึ่ง แต่ธนาคารต้องระมัดระวังในการควบคุมความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย”
สำหรับธนาคารที่เสนออัตราดอกเบี้ยถูกที่สุด ได้แก่ ธนาคารเจียงซู ซึ่งกำลังโปรโมตอัตราดอกเบี้ยรายปีที่ 2.58% สำหรับสินเชื่อผู้บริโภคสูงสุดถึง 1 ล้านหยวนก่อนสิ้นเดือนมีนาคม ธนาคารหนิงโป ก็กำลังเสนออัตราดอกเบี้ยรายปีที่ 2.68% สำหรับผู้กู้ครั้งแรก โดยมีวงเงินสูงสุด 200,000 หยวน และรับประกันการอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 นาที
ที่ผ่านมา การกระตุ้นการบริโภคเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ยอดขายปลีกยังคงซบเซา ขณะที่ราคาผู้บริโภคลดลงเข้าสู่ “ภาวะเงินฝืด” ในเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
ในปัจจุบัน ธนาคารต้องแย่งลูกค้าผู้กู้สินเชื่อ ด้วยการเสนอดอกเบี้ยต่ำ แต่ในขณะเดียวกัน อาจดึงดูดผู้กู้ที่มีเครดิตไม่ดีให้เข้ามามากขึ้น อีกทั้งเกิดความกังวลว่า ผลตอบแทนธนาคารอาจไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้
ในปีนี้ จีนได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทะเยอทะยานไว้ที่ประมาณ 5% และได้ปรับเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณให้สูงที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดย “การกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค” เป็นกุญแจสำคัญในการตอบโต้นโยบายของสหรัฐ
ขณะเดียวกัน จีนยังคงเผชิญกับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ความต้องการลดลงและทำให้ราคาขายยังคงต่ำ ในขณะที่ค่าแรงหยุดนิ่ง
อ้างอิง: bloomberg