ทรัมป์เตรียมเซ็นคำสั่งฝ่ายบริหาร ‘ยุบกระทรวงศึกษาฯ’

เอกสารสรุปของทำเนียบขาวชี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารปิดกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ได้หาเสียงไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ที่ปรึกษาระดับอภิมหาเศรษฐี พยายามยกเลิกโครงการและหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง อาทิ สำนักงานความช่วยเหลือระหว่างประเทศ (USAID) โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรส แต่การยุบกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นความพยายามยุบหน่วยงานระดับกระทรวงครั้งแรกของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่สามารถยุบกระทรวงได้โดยไม่มีกฎหมายจากสภาคองเกรส ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา 53-47 แต่การจะผ่านกฎหมายยุบกระทรวงต้องได้เสียงสนับสนุน 60 เสียง หรือได้จากเดโมแครตอีก 7 เสียงจึงจะผ่าน ซึ่งไม่มีสัญญาณว่า ส.ว.จากเดโมแครตจะสนับสนุนให้ยุบกระทรวงศึกษาฯ
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์กำลังถูกกลุ่มอัยการจากรัฐของพรรคเดโมแครตท้าทาย ด้วยการยื่นฟ้องศาลสกัดไม่ให้ทรัมป์ยุบกระทรวงศึกษาฯ และเลิกจ้างพนักงานเกือบครึ่งหนึ่งตามที่ประกาศออกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ คำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้นางลินดา แมคมาฮอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ "ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทุกอย่างอำนวยความสะดวกการยุบกระทรวงศึกษาธิการ คืนอำนาจหน้าที่ด้านการศึกษาให้กับรัฐ พร้อมๆ กับสร้างหลักประกันถึงการให้บริการ ดำเนินโครงการ และสร้างประโยชน์แก่ชาวอเมริกันต่อไปอย่างไร้รอยต่อ" โครงการหรือกิจกรรมใดๆ ที่ยังคงได้รับทุนจากกระทรวงศึกษา ไม่ควร "สานต่ออุดมการณ์ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equity & Inclusion: DEI) หรืออุดมการณ์ด้านเพศ
ทรัมป์เรียกร้องให้ยุบกระทรวงศึกษาฯ มาโดยตลอด โดยเรียกเป็น “งานโกหกหลอกลวงครั้งใหญ่” เขาเคยเสนอยุบตั้งแต่เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกแต่คองเกรสไม่เอาด้วย
เดือนก่อนทรัมป์กล่าวว่า ต้องการยุบกระทรวงนี้ทันที แต่ยอมรับว่าต้องได้ความเห็นชอบจากคองเกรสและสหภาพครู
เดิมทีระหว่างปี 1953-1979 งานด้านการศึกษาอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข การศึกษา และสวัสดิการ จนกระทั่งก่อตั้งกระทรวงศึกษาธิการในปี 1979
เอกสารสรุปของทำเนียบขาวระบุ “การควบคุมการศึกษาของรัฐบาลกลางทำให้บรรดานักเรียน ผู้ปกครอง และครูต้องล้มเหลว” นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 กระทรวงศึกษาฯ ใช้งบประมาณไปกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์แต่ไม่ได้พัฒนาผู้เรียนให้สำเร็จเลยพิจารณาจากผลการทดสอบที่เป็นมาตรฐาน
ด้านผู้ปกป้องกระทรวงกล่าวว่า การปกป้องการศึกษามาตรฐานสูงของรัฐเป็นสิ่งสำคัญ พรรครีพับลิกันพยายามผลักดันการศึกษาเพื่อหากำไร การยุบกระทรวงทันทีอาจขัดขวางเงินช่วยเหลือโรงเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
สำหรับนางแมคมาฮอน ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอแฟรนไชส์มวยปล้ำ WWE และเพิ่งได้รับการรับรองเป็น รมว.ศึกษาจากวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์ (17 มี.ค.) ปกป้องแผนยุบกระทรวงศึกษาของทรัมป์ แต่ให้คำมั่นว่าเงินทุนด้านการศึกษาของรัฐบาลกลางที่จัดสรรโดยสภาคองเกรสเพื่อช่วยเหลือเขตการศึกษาและนักเรียนที่มีรายได้น้อยจะยังคงดำเนินต่อไป
แหล่งข่าววงในรายหนึ่งเผยว่า เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและบริการสำหรับเด็กพิการได้รับการบัญญัติไว้ในกฎหมายแล้วและจะยังคงดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาฯ ดูแลโรงเรียนรัฐบาลราว 100,000 โรงและโรงเรียนเอกชน 34,000 โรงในสหรัฐ แม้ว่าเงินทุนโรงเรียนรัฐกว่า 85% ได้จากรัฐบาลมลรัฐและท้องถิ่นก็ตาม กระทรวงยังให้เงินกู้ของรัฐบาลกลางแก่โรงเรียนและโครงการที่ต้องการ เช่น จ่ายเงินให้ครูผู้สอนเด็กพิเศษ, ให้ทุนโครงการศิลปะ และจัดหาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ มาทดแทนของเก่า
นอกจากนี้กระทรวงยังดูแลเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ของชาวเมริกันหลายสิบล้านคน ที่ไม่สามารถหาเงินมาเรียนมหาวิทยาลัยได้ในทันที
- กลุ่มต้านฟ้องศาล
สัปดาห์ก่อนอัยการจาก 20 รัฐและดิสทริคออฟโคลัมเบีย (ดีซี) ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองบอสตัน หลังกระทรวงประกาศแผนเลิกจากพนักงานกว่า 1,300 คน ส่วนหนึ่งของ “ภารกิจสุดท้าย” ของกระทรวงศึกษาฯ
การเลิกจ้างดังกล่าวจะทำให้กระทรวงเหลือเจ้าหน้าที่ 2,183 คน จาก 4,133 คน ตอนที่ทรัมป์รับตำแหน่งในเดือน ม.ค.เพิ่มเติมจากข้อเสนอเลิกจ้างและไล่พนักงานทดลองงานออก ตามมาตรการลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลางครั้งใหญ่
คำฟ้องโต้แย้งว่า การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากจะทำให้กระทรวงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หลักตามที่กฎหมายกำหนดได้ เช่น ด้านสิทธิพลเรือน ทั้งยังเป็นการแย่งชิงอำนาจหน้าที่จากสภาคองเกรส ขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ นางแมคมาฮอน “ไม่ได้รับอนุญาตให้ยุบหรือขัดขวางการทำหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และไม่สามารถโอนย้ายความรับผิดชอบของกระทรวงไปยังหน่วยงานอื่นนอกเหนือจากที่กฎหมายให้อำนาจไว้”