'อียู' ยอมถอย! เลื่อนเก็บภาษีสหรัฐล็อตแรกไปกลางเดือนเม.ย.

สหภาพยุโรป (อียู) แถลงล่าสุดในวันนี้ (20 มี.ค.) ว่า อียูจะ "เลื่อนการบังคับใช้" มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐล็อตแรก ที่เดิมจะมีผลในวันที่ 1 เม.ย. นี้ ออกไปเป็นกลางเดือนเม.ย. แทน เพื่อให้มีเวลาเจรจาเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 สัปดาห์ และเพื่อให้อียูได้พิจารณาใหม่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับสหรัฐในสินค้ากลุ่มใด 

ก่อนหน้านี้ อียูได้ประกาศจะดำเนินมาตรการตอบโต้ภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25% ของสหรัฐ ด้วยการเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับสหรัฐเช่นกัน โดยจะแบ่งเป็นล็อตแรกมูลค่า 4,500 ล้านยูโร ในวันที่ 1 เม.ย. และตามมาด้วยล็อตที่สองมูลค่า 18,000 ล้านยูโร ในวันที่ 13 เม.ย. 

ทั้งนี้ ภาษีมูลค่า 4,500 ล้านยูโรล็อตแรกนั้น เป็นภาษีที่อียูเคยเรียกเก็บกับสหรัฐมาแล้วเมื่อปี 2018 โดยมีขึ้นเพื่อตอบโต้ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% ไปเมื่อต้นเดือนมี.ค. นี้ 

ในบรรดาสินค้าล็อตแรกที่จะถูกขึ้นภาษีนั้นยังครอบคลุมถึง "วิสกี้และเหล้าเบอร์เบิน" จากสหรัฐในอัตรา50% ด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่เคยถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวโจมตีมาแล้วและขู่ว่าจะเก็บภาษีไวน์และสุราจากอียูกลับ 200% เพื่อตอบโต้ 

“ขณะนี้ เรากำลังพิจารณากำหนดกรอบเวลาในการใช้มาตรการตอบโต้ของสหภาพยุโรปทั้งสองชุด เพื่อให้เราสามารถหารือกับประเทศสมาชิกในทั้งสองรายการได้พร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการเจรจากับพันธมิตรสหรัฐ” มารอส เซฟโควิช กรรมาธิการด้านการค้าของยุโรป กล่าวในรัฐสภายุโรปวันนี้

ในเวลาต่อมา คณะกรรมาธิการได้ยืนยันว่ามาตรการตอบโต้ของสหภาพยุโรปทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ในกลางเดือนเมษายน