'สนามบินฮีทโธรว์' เริ่มให้บริการปกติวันเสาร์นี้ หลังไฟไหม้สถานีไฟฟ้าครั้งใหญ่

โทมัส โวลด์บาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอน เผยว่า อาจกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ 100% ในวันเสาร์นี้ หลังจากเกิดไฟฟ้าดับในวงกว้าง อันเป็นผลจากเพลิงไหม้รุนแรงบริเวณใกล้เคียง ทำให้ศูนย์กลางการขนส่งที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนในการเดินทางทั่วโลก

โวลด์บายยังได้กล่าวถึงการปิดสนามบินว่าเป็น “เหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก” และได้ขอโทษผู้โดยสารสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น

ตามเว็บไซต์ของสนามบิน ระบุว่า เที่ยวบินเที่ยวแรกของสนามบินฮีทโธรว์ในวันเสาร์ มีกำหนดออกเดินทางเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเกือบทั้งหมดระบุไว้ว่าตรงเวลา

ด้านสายการบินแห่งชาติของอังกฤษคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ประมาณ 80% ของขีดความสามารถในการบริการในวันเสาร์ และเตือนว่า การฟื้นฟูการบริการหลังเกิดเหตุไฟฟ้าดับมีความซับซ้อน และผู้โดยสารอาจเผชิญกับความล่าช้า

ทั้งนี้ เหตุไฟดับเป็นวงกว้างเมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) เป็นผลมาจากเหตุเพลิงไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยในเมืองเฮย์ส ซึ่งจ่ายกระแสไฟให้สนามบิน ส่งผลให้เที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวปั่นป่วน และบางสายการบินต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินกลางอากาศ

เหตุไฟฟ้าดับในสนามบินคาดว่าส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 290,000 คน โดยบรรดาผู้โดยสารที่จะเดินทางลงฮีทโธรว์เดินทางมาจากหลายเมืองทั้งซิดนีย์ ฮ่องกง กรุงเทพฯ สิงคโปร์ โจฮันเนสเบิร์ก นิวยอร์ก และไมอามี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ในสถานีไฟฟ้าย่อยได้แล้ว และกำลังอยู่ในขั้นสืบสวนสาเหตุเพลิงไหม้ โดยมีตำรวจปราบปรามการก่อการร้ายเข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวน โฆษกตำรวจเผยว่า “ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ามีการเล่นไม่ซื่อ” แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเปิดกว้างในการสืบสวนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้แล้วก็ตาม ขณะที่หน่วยดับเพลิงลอนดอนเชื่อว่าไม่มีเหตุน่าสงสัย

เอ็ด มิลลิแบนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอังกฤษ เผยกับสถานีวิทยุ LBC ของลอนดอนว่า ไม่พบเจตนาเล่นไม่ซื่อ แต่มองว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุร้ายแรงเท่านั้น

ซีเอ็นเอ็นเผยด้วยว่าแหล่งจ่ายไฟสำรองที่สนามบินฮีทโธรว์ก็ถูกไฟไหม้เช่นกันทำให้ไม่สามารถหาไฟสำรองมาจ่ายไฟฟ้าให้สนามบินได้

ผลกระทบจากเพลิงไหม้และไฟฟ้าดับ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสายการบินต่างๆ ที่พยายามเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบินไปและกลับจากสนามบินแห่งนี้ ซึ่งเป็นฐานการบินที่รองรับผู้โดยสารกว่า 250,000 คน และเที่ยวบิน 1,300 เที่ยวบินจากสหรัฐ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางทุกวัน อาจต้องเผชิญกับความท้าทายด้านอุปทานมากมาย

ฮีทโธรว์เป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารพลุกพล่านเป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2023 และเมื่อปีที่แล้ว มีผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินนี้ถึง 83.9 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด สนามบินนี้มีอาคารผู้โดยสาร 4 แห่ง และโดยปกติจะให้บริการเต็มที่ที่ระดับ 99% ของขีดความสามารถ ซึ่งสายการบินหลักทุกแห่งจะบินผ่านสนามบินแห่งนี้

ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 1,350 เที่ยวบิน และมีเที่ยวบิน 120 เที่ยวที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินอื่นในทันทีหรือต้องกลับไปยังสนามบินต้นทาง

การชดเชยผู้โดยสาร

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหราชอาณาจักร (CAA) แนะนำให้ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟดับว่าควรได้สิทธิในการขอคืนเงิน หรือเลือกเที่ยวบินอื่นนอกจากสายการบินเดิม

สำหรับเที่ยวบินของสายการบินของสหราชอาณาจักรหรือสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารของสหราชอาณาจักร ผู้โดยสารควรได้รับบริการอาหาร เครื่องดื่ม และที่พักในโรงแรมท่ามกลางความล่าช้า ส่วนผู้โดยสารของสายการบินอื่น CAA แนะนำติดต่อสายการบินของตน และคาดว่าสายการบินจะพยายาม “ชดเชย” ความเสียหายให้ผู้โดยสารโดยเร็วที่สุด หากไม่สามารถช่วยเหลือได้ในทันที

 

อ้างอิง: CNN