Tesla เจอมรสุมธุรกิจ CEO คนใหม่อาจเป็นทางรอด เมื่อ Elon Musk จับปลาหลายมือ

Tesla เผชิญวิกฤติปัญหาธุรกิจรุมเร้า หุ้นดิ่งหนัก ’ยอดขาย-กำไร‘ ปีนี้น่าเป็นห่วง ส่วน ‘อีลอน มัสก์’ จับปลายมือ จนนักวิเคราะห์เรียกร้องให้ลาออก
KEY
POINTS
- “อีลอน มัสก์” กำลังมีบทบาทในหลายธุรกิจ ทั้งแพลตฟอร์ม X, บริษัท xAI, SpaceX และ DOGE จนทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามาร
“อีลอน มัสก์” ซีอีโอของเทสลา (Tesla) กำลังมีบทบาทในหลายๆ ที่ในช่วงนี้ แต่กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเขาที่กำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทำให้ Tesla เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดใน ดัชนี S&P 500 ในปีนี้
ขณะเดียวกัน ยอดขายเทสลา ทั่วโลกลดลง ตลาดขายต่อในสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในภาวะถดถอย รถ Cybertruck ของ Tesla ถูกเรียกคืนเนื่องจากชิ้นส่วนภายนอกอาจหลุดออกขณะขับขี่เป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 15 เดือน บริษัทถูกยกเลิกการเข้าร่วมงาน Vancouver International Auto Show อย่างกะทันหันด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา Dan Ives นักวิเคราะห์หุ้นของ Wedbush Securities เรียกร้องให้มัสก์และคณะกรรมการของ Tesla "หยุดนิ่งเฉย" และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
"Tesla กำลังเผชิญกับวิกฤติและมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ นั่นก็คือ… Musk เพราะ Tesla ก็คือ Musk และ Musk ก็คือ Tesla ทั้งสองเป็นคำพ้องความหมายและแยกจากกันไม่ได้"
ยอดขาย-กำไร Tesla น่าเป็นห่วง
เมื่อปีที่ผ่านมา Tesla Model Y เป็นรถที่ขายดีที่สุดในโลก แต่ยอดขายโดยรวมกลับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยลดลงจาก 1.81 ล้านคันเหลือ 1.79 ล้านคัน ส่งสัญญาณเตือนถึงอนาคตของ “กำไร” ในปีนี้ที่อาจลดลง
สำหรับปีนี้ แม้ว่า Tesla ยังคงรักษาตำแหน่งผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดในโลกไว้ได้ แต่สำหรับธุรกิจที่มุ่งเน้นการเติบโต กำไรของบริษัทส่งสัญญาณเตือนถึงแนวโน้มการลดลง โดยเฉพาะในยุโรป โดยเดือนม.ค.มียอดขายลดลง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน การจัดส่งรถยนต์ของ Tesla ที่ผลิตในจีน ซึ่งผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในจีนและต่างประเทศ ก็ลดลงมากกว่า 49% ในเดือนเดียวกัน
โจเซฟ สปาค นักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS เผยแพร่รายงานการวิจัย โดยคาดการณ์ว่ายอดขายทั่วโลกของ Tesla ในปีนี้จะลดลง 5%
ยอดขาย Tesla อาจเผชิญกับการลดลงได้จากหลายปัจจัย โดยผลการวิจัยจาก Morning Consult Intelligence เผยว่ากิจกรรมของ Elon Musk ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปและแคนาดา ในขณะที่ตลาดจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ยังไม่ได้รับผลกระทบในด้านลบนี้
Tesla 'ล้าสมัย' ในสมรภูมิดุเดือด
รถยนต์รุ่นปัจจุบันของ Tesla เริ่มสูญเสียความน่าสนใจในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรุ่น Model S ที่เคยเป็นรถยนต์บุกเบิก เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 และรุ่น Model X เปิดตัวในปี 2015 แม้แต่รุ่น Model 3 และ Model Y ที่ใหม่กว่าและมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ก็เริ่มดูเหมือนว่าล้าสมัยไปแล้วเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ในตลาด
"เมื่อพิจารณาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Tesla จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลานี้ไม่มีรุ่นใหม่ออกมาเลย ยกเว้น Cybertruck ซึ่งเป็นรถยนต์เฉพาะกลุ่มอย่างแท้จริง Tesla มีการปรับปรุง Model Y ใหม่ แต่ก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นมากนักในตลาดที่มีคู่แข่งมากมาย “ Valdez Streaty กล่าว
เทสลากำลังถูกกดดันจากการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่อย่างล่าช้า ขณะเดียวกันแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนได้เร่งตัวขึ้นมา เช่น BYD, Xpeng และ Nio หรือแม้แต่ค่ายรถยนต์สันดาปก็ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
“บริษัทจีน โดยเฉพาะ BYD ยังคงเติบโตต่อไปไม่เพียงแต่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนอื่นๆ ของโลกด้วย ดังนั้น นี่จึงเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่สำหรับ Teใsla เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ผลิตอื่นๆ ด้วยเช่นกัน”
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา BYD ประกาศว่าได้พัฒนาระบบชาร์จไฟแบบเร็วพิเศษที่สามารถทำให้รถวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 5 นาที ซึ่งเร็วกว่าเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์ของ Tesla อย่างมาก
รวมทั้งคำสัญญา ‘โรโบแท็กซี่’ หรือรถยนตร์ไร้คนขับที่แม้จะยังไม่เปิดให้บริการ โดยมัสก์ประกาศว่า Tesla จะเปิดให้บริการโรโบแท็กซี่ในเท็กซัสภายในเดือนมิถุนายน แต่เรื่องนี้กลับถูกให้ความสำคัญด้วยการให้คำมั่นสัญญาในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว
ตัวอย่างเช่น ในปี 2019 มัสก์เคยกล่าวว่าภายในหนึ่งปีจะมีรถยนต์ Tesla หนึ่งล้านคันบนท้องถนนที่สามารถทำหน้าที่เป็นรถแท็กซี่ไร้คนขับได้ อย่างไรก็ตาม ระบบ "Full Self Driving" ของ Tesla ที่มีจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ Tesla ในปัจจุบันยังคงเป็นระบบ "แบบใช้มือ" ที่ผู้ขับขี่ต้องคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
เจย์ แนกลีย์ จากบริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ Redspy กล่าวว่า "ทุกปี เราจะได้รับคำสัญญาใหม่จากอีลอน มัสก์ เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับของเขาที่ใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ปัญหาคือ รถยนต์เหล่านี้ไม่เคยทำได้จริงตามที่กล่าวไว้เลย"
จับปลาหลายมือ หลุดโฟกัส Tesla
ในขณะนี้ Tesla อาจต้องการผู้นำที่มุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่ แต่ด้วยบทบาททางการเมืองของอีลอน มัสก์ ควบคู่ไปกับการบริหารธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X, บริษัทปัญญาประดิษฐ์ xAI และบริษัทอวกาศเอกชน SpaceX ที่เพิ่งประสบความล้มเหลวในการปล่อยจรวด Starship ขนาดยักษ์ถึงสองครั้งล่าสุด ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการทุ่มเทเวลาและทรัพยากรให้กับ Tesla ได้อย่างเต็มที่
เมื่อถูกถามในการสัมภาษณ์กับ Fox Business ล่าสุดว่าเขาผสมผสานทั้งหมดนี้เข้ากับบทบาทใหม่ของเขาในรัฐบาลได้อย่างไร มัสก์ตอบว่า "ด้วยความยากลำบากมาก"
มัสก์มีบทบาทในเทสลาในฐานะซีอีโอนับตั้งแต่ปี 2004 บทบาทของเขาก็แข็งแกร่งและไม่มีใครท้าทายได้ และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงใดๆ เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยถือหุ้น 13% ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 95,000 ล้านดอลลาร์
CEO คนใหม่อาจเป็นทางออกของ ‘เทสลา’
แม้ว่านักลงทุนรายใหญ่ยังไม่มีใครออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ แต่ Ross Gerber ผู้จัดการกองทุนการลงทุน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นได้เรียกร้องให้ มัสก์ลาออกจากตำแหน่ง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างอดทนต่อพฤติกรรมต่างๆ ของมัสก์ ไม่ว่าจะเป็นทวีตเหยียดเชื้อชาติ การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 การเชิญชวนหุ้นส่วนทางธุรกิจให้ไป "ตายห่ากัน"
นอกจากนี้นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Tesla จะได้รับประโยชน์จากผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ โดย Matthias Schmidt จาก Schmidt Automotive Research กล่าวว่า "การมี CEO คนใหม่สำหรับ Tesla จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทในตอนนี้"
อย่างไรก็ดี อีลอน มัสก์ได้กล่าวปราศรัยต่อพนักงานในการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยยอมรับถึง "พายุฝน" ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นของ Tesla แาละย้ำว่าตอนนี้ Tesla กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะทำให้รถยนต์ของตนเป็นรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ และสนับสนุนให้พนักงานถือหุ้นของตนไว้