‘สหรัฐ’ เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เดือน ก.ค.นี้ ถ้าไม่ขยายเพดานหนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ารัฐบาล “สหรัฐ” ที่จะผิดนัดชำระหนี้มูลค่ามหาศาลถึง 36.6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงระหว่างกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนตุลาคม สภาคองเกรสล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล ตามรายงานของสถาบันวิจัย Bipartisan Policy Center คาดการณ์ 

ที่ผ่านมา สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐมักจะเจรจาต่อรองเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลจนถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้สร้างความผันผวนในตลาดการเงิน และเป็นเหตุให้หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลกลางลง

สํานักงานวิเคราะห์และติดตามการใช้งบประมาณแห่งรัฐสภา (Congress Budget. Office : CBO) กำลังจะเปิดเผยประมาณการ "วันที่ X" (X-date) ในวันพุธที่ 26 มี.ค.นี้ โดยโฆษกของสำนักงานระบุว่า วันที่ X นี้หมายถึง วันที่สำคัญที่กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถชำระภาระผูกพันทางการเงินทั้งหมดของประเทศได้อีกต่อไป

ชัย อากาบาส รองประธานฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจของ BPC กล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถรอช้าในการดำเนินการเกี่ยวกับเพดานหนี้ได้ การแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ก่อนถึงวันที่ X ควรเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

อย่างไรก็ดี การระบุวันที่ X ที่แน่นอนเป็นเรื่องยาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงกระแสรายรับจากภาษี ซึ่งมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนเมษายนสำหรับการยื่นภาษีประจำปีของชาวอเมริกัน

นอกจากนี้ ในปีนี้มีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการที่จะส่งผลกระทบต่อกำหนดเส้นตายนี้ รวมถึงสัญญาณของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมทั้งการขยายเวลาการยื่นภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติเมื่อเร็วๆ นี้ ยังส่งผลกระทบต่อกระแสรายได้ที่ไหลเข้าสู่คลังของรัฐบาลด้วย

BPC ตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดวันที่ X เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือในช่วงต้นเดือนมิถุนายน หากการเก็บภาษีล่าช้ากว่าที่ประมาณการไว้

ที่ผ่านมาสหรัฐ ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้มาก่อน และตลาดการเงินโลกจะเกิดความกังวลอย่างมาก แม้มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยที่อาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ วิกฤตเพดานหนี้ในปี  2566 ทำให้สหรัฐเข้าใกล้ภาวะผิดนัดชำระหนี้ และส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ

อ้างอิง Reuters