ราคาทองคำไปต่อ บิ๊กแบงก์แห่เพิ่มเป้า คาดสิ้นปีทะยาน 3,300 ดอลลาร์
ราคาทองคำร้อนแรง! 2 แบงก์ใหญ่สหรัฐปรับเพิ่มเป้าราคาทองคำ จาก 3 ปัจจัยสำคัญ สงครามการค้า แบงก์ชาติตุนทอง เงินทุนไหลเข้า ETF ทองคำ ดันราคาทะยาน 3,300 ดอลลาร์ สิ้นปีนี้
รอยเตอร์รายงานว่า 2 ธนาคารใหญ่ในสหรัฐปรับเพิ่มเป้าราคาทองคำ ณ สิ้นปี 2568 นำโดย “โกลด์แมน แซคส์” ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำสำหรับปลายปี 2568 เป็น 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเดิม 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยอ้างถึงกระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน ETF ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความต้องการทองคำอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลาง
ขณะที่ แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ได้ปรับเพิ่มประมาณการราคาทองคำเฉลี่ยสำหรับปีนี้ และปีหน้า โดยราคาทองคำจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,063 ดอลลาร์/ออนซ์ ในปี 2568 จากเดิม 2,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทะยานสู่ 3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2569 จากเดิม 2,625 ดอลลาร์ต่อออนซ์ BofA ให้เหตุผลว่าความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายการค้าของสหรัฐจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะสั้น
ราคาทองคำแท่งในปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ประมาณ 3,024 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 15% ในปีนี้ การพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ได้รับแรงหนุนจากความกังวลทางเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์"
3 ปัจจัยหนุนราคาทองคำ
- จับตาภาษีทรัมป์ 2 เม.ย.นี้
BofA มองว่าปัจจัยที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ได้แก่ การปรับสมดุลทางการคลังของสหรัฐ สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลง รวมถึงการกำหนดภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่กำลังจะประกาศในวันที่ 2 เม.ย.นี้
- แบงก์ชาติทั่วโลกซื้อ ‘ทองคำ’ เข้าคลัง
โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่าธนาคารกลางขนาดใหญ่ในเอเชียจะยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-6 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุระดับสำรองทองคำตามที่คาดการณ์ไว้
โกลด์แมนได้ปรับเพิ่มสมมติฐานความต้องการของธนาคารกลางเป็น 70 ตันต่อเดือน จากเดิม 50 ตัน ซึ่งการปรับเพิ่มนี้เกิดจากความไม่แน่นอนทางนโยบายของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้น และการคาดการณ์ว่าประเทศจีนอาจจะยังคงสั่งซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในอัตราที่รวดเร็วต่อไปอีก 3-6 ปี
- กองทุน ETF ทองคำ ดันราคาทะยาน 3,680 ดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่ากองทุน ETF ทองคำจะได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐที่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ทั้งหมด 2 ครั้งในปีนี้ และจะมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการไหลเข้าของเงินทุนในกองทุน ETF
โกลด์แมน แซคส์ ระบุถึง 2 ความเสี่ยงสำคัญสำหรับกองทุน ETF ทองคำ กรณีแรกคือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำในปลายปี 2568 อยู่ที่ 3,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนกรณีที่สองคือ ความต้องการทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้การถือครอง ETF กลับไปสู่ระดับช่วงการระบาดใหญ่ และดันราคาทองคำขึ้นไปถึง 3,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2568
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
