จีนตั้งแง่! ใช้รัฐวิสาหกิจสกัดดีล‘ลีกาชิง’ขายท่าเรือปานามา

แหล่งข่าวเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า สัปดาห์ก่อนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการจีนสั่งรัฐวิสาหกิจงดอนุมัติกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับลีกาชิง และครอบครัว หลังอภิมหาเศรษฐีฮ่องกงรายนี้เตรียมขายท่าเรือสองแห่งในปานามา สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลปักกิ่ง ส่วนข้อตกลงที่มีอยู่เดิมไม่ได้รับผลกระทบ 

นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับดูแลกำลังทบทวนการลงทุนที่ตระกูลลีมีในจีนและต่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของการทำธุรกิจของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

บลูมเบิร์กระบุว่า การสั่งระงับทำดีลใหม่ไม่ได้หมายความว่า ปักกิ่งจะไม่อนุญาตให้รัฐวิสาหกิจทำธุรกิจกับนายลีเลย แต่เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับอภิมหาเศรษฐีวัย 96 ปีรายนี้ หลังจากบริษัทซีเค ฮัตชิสันไปทำข้อตกลงกับกลุ่มบริษัทใหญ่นำโดยบริษัทแบล็กร็อก เตรียมขายท่าเรือในปานามาและที่อื่นๆ ทำให้บริษัทของนายลีตกเป็นเป้าท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน

เมื่อมีข่าวออกมาหุ้นของซีเค ฮัตชิสันในตลาดฮ่องกงที่เคยขึ้นกลับร่วงลงทันทีปิดตลาดวันนี้ (27 มี.ค.) บวก 0.9% ส่วนหุ้นของซีเคแอสเสทปิดตลาดลดลง 1.4% ขณะที่นักลงทุนเฝ้ารอความคืบหน้าในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ทั้งสองฝ่ายวางแผนลงนามข้อตกลงซื้อขาย

การขายท่าเรือที่คาดว่าซีเค ฮัตชิสัน จะได้เงินสดสุทธิกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ กลายเป็นชนวนให้ปักกิ่งต้องตรวจสอบ เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐโวว่า ดีลนี้เป็นความสำเร็จของสหรัฐในการทวงคืนคลองปานามาน่านน้ำยุทธศาสตร์จากอิทธิพลจีน  ทั้งๆ ที่ท่าเรือปานามามีเพียง 2 ท่า จากทั้งหมด 43 ท่าทั่วโลกที่ซีเค ฮัตชิสันนำออกขาย ยกเว้นในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง

บลูมเบิร์กสอบถามไปยังซีเค ฮัตชิสัน, ซีเค แอสเสท, ฮอไรซันเวนเจอร์, แปซิฟิกเซนจูรีกรุ๊ป และรัฐวิสาหกิจคณะกรรมการบริหารตรวจสอบสินทรัพย์ หน่วยงานดูแลรัฐวิสาหกิจจีน ไม่ได้รับคำตอบ

ส่วนการแถลงข่าวประจำวัน นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบข้อซักถามในประเด็นนี้ว่าจีนคัดค้านการใช้กำลังเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

“ผมอยากเน้นย้ำว่าจีนต่อต้านการใช้การบังคับทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้งเพื่อละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นมาโดยตลอด”

• แบล็กร็อกเตรียมซื้อ 43 ท่าเรือจากซีเค ฮัตชิสัน

จีนกำลังจับตาการขายท่าเรือครั้งนี้เพราะอาจละเมิดความมั่นคงแห่งชาติและฝ่าฝืนการต่อต้านการผูกขาด แต่ยังไม่ทราบว่าปักกิ่งจะทำได้มากขนาดไหน เนื่องจากท่าเรือในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงไม่ได้ถูกขายไปด้วยและผลกระทบต่อซีเค ฮัทชิสันจากการถูกระงับทำธุรกิจใหม่กับรัฐวิสาหกิจก็อาจมีจำกัด

“โอกาสได้เงินสด 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์จากการขายท่าเรืออาจมากจนบดบังความเสี่ยงที่ธุรกิจในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่โดนกระทบได้” เดนิส หว่อง นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ให้ความเห็น

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์บริษัท รายได้ของซีเค ฮัตชิสันซึ่งจดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน คิดเป็นเพียง 12% ของรายได้จากฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ การดำเนินงานส่วนใหญ่ครอบคลุมยุโรป โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ในภาคส่วนต่างๆ เช่น ค้าปลีก โทรคมนาคม ท่าเรือ และสาธารณูปโภค โดยแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจจีนเลย

ส่วนฮอไรซัน เวนเจอร์ บรรษัทลงทุนนอกตลาดของลี ยังให้ความสำคัญกับโครงการในต่างประเทศด้วย กว่า 80% เป็นการลงทุนในประเทศยุโรป สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

อย่างไรก็ตาม ซีเค แอสเสท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทที่ปัจจุบันมีวิกเตอร์ บุตรชายคนโตของเป็นผู้ดูแลมีพอร์ตอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเช่าระยะยาวหนึ่งในห้าในแผ่นดินใหญ่วัดจากพื้นที่ แลนด์แบงก์สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินเพื่อการซื้อขายของบริษัทอยู่ในจีนมากที่สุด

บริษัทแปซิฟิก เซ็นจูรี ของริชารด์ บุตรชายคนที่ 2 ก็เกี่ยวข้องกับจีนมาก บริษัทประกันเอฟดับเบิลยูดี กรุ๊ป โฮลดิง มีแผนขยายตัวครั้งใหญ่ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทจีน

น่าสังเกตว่า คำสั่งระงับเจรจากับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับลี กาชิงเกิดขึ้นก่อนที่ริชาร์ด ลี ได้รับเชิญไปร่วมงานประชุมการพัฒนาจีนในกรุงปักกิ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนดังมาร่วมหลายคน บ่งชี้ว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่ได้ขึ้นบัญชีดำริชาร์ด

สำหรับดีลท่าเรือปานามา แหล่งข่าวเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการสรุปความถูกต้องทางบัญชี ภาษี และทีมทำธุรกิจอื่นๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงตั้งเป้าลงนามกันตามแผนภายในวันที่ 2 เม.ย.