ตึงเครียดอิหร่าน สหรัฐส่งเครื่องบินรบเสริมกำลังตะวันออกกลาง

ตึงเครียดอิหร่าน สหรัฐส่งเครื่องบินรบเสริมกำลังตะวันออกกลาง

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐส่งเครื่องบินรบเข้าไปเสริมขีดความสามารถกองทัพในตะวันออกกลาง ระหว่างการถล่มเยเมนนานกว่าสองสัปดาห์และความตึงเครียดกับอิหร่านเพิ่มสูง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า นายพีต เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสริมกำลังเครื่องบินรบเข้าไปเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่าเป็นเครื่องบินรบชนิดใดหรือส่งไปที่ใดกันแน่

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวกับรอยเตอร์แบบไม่เปิดเผยตัวตนว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือราวๆ นั้น สหรัฐสั่งย้ายเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 จำนวนหกลำไปยัง ฐานทัพร่วมสหรัฐ-อังกฤษบนเกาะดิเอโกการ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดีย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นั่นเป็นการนำ B-2 ซึ่งมีเทคโนโลยีล่องหนและสามารถติดตั้งระเบิดหนักสุดและอาวุธนิวเคลียร์ได้ เข้าไปอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสมสำหรับปฏิบัติการในตะวันออกกลาง

“หากอิหร่านหรือตัวแทนคุกคามบุคลากรหรือผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ สหรัฐก็จะปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดปกป้องประชาชนของเรา” ฌอน พาร์เนล โฆษกเพนตากอนระบุในแถลงการณ์

รอยเตอร์สอบถามไปยังกองบัญาการยุทธศาสตร์สหรัฐ ไม่ได้ให้คำตอบถึงจำนวนเครื่องบินทิ้งระเบิดB-2 ที่ส่งไปยังดิเอโกการ์เซีย กล่าวเพียงว่าจะไม่ให้ความเห็นเรื่องการฝึกซ้อมหรือปฏิบัติการที่ใช้เครื่องบิน B-2

ทั้งนี้ สหรัฐมีอาวุธในตะวันออกกลางมากอยู่แล้ว และเร็วๆ นี้เรือบรรทุกเครื่องบินสองลำก็จะมาถึง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะทิ้งระเบิดและเก็บภาษีรอง หากอิหร่านไม่ทำข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์กับรัฐบาลวอชิงตัน

สำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 แม้จะถูกใช้เพื่อโจมตีเป้าหมายฮูตีที่ฝังตัวอยู่ในเยเมน แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กล่าวว่าการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบล่องหนนั้นเกินความจำเป็น และเป้าหมายไม่ได้ฝังอยู่ลึกขนาดนั้น

 B-2 มีอุปกรณ์สำหรับบรรทุกระเบิดทรงพลังที่สุดของอเมริกา นั่นคือระเบิด GBU-57 (Massive Ordnance Penetrator: MOP) ขนาด 30,000 ปอนด์ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาวุธดังกล่าวอาจนำไปใช้โจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้

ทว่า กองทัพอากาศสหรัฐมีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เพียง 20 ลำเท่านั้นจึงนำออกมาใช้งานไม่บ่อยนัก

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเผยกับรอยเตอร์ว่า กองทัพสหรัฐกำลังเคลื่อนย้ายระบบป้องกันภัยทางอากาศจำนวนหนึ่งจากเอเชียไปยังตะวันออกกลางด้วย

ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ว่า สหรัฐต้องเสียหายอย่างหนักถ้าทรัมป์ทำตามที่พูด

 อมิราลี ฮาญีซาเดห์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ข่มขู่กองทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง โดยระบุถึงฐานทัพอเมริกัน “พวกเขาอาศัยอยู่ในเรือนแก้วย่อมไม่ควรขว้างก้อนหิน”

ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระแรก ระหว่างปี 2017-2021 ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงที่อิหร่านทำกับมหาอำนาจโลก ข้อตกลงนี้จำกัดไม่ให้รัฐบาลเตหะรานทำกิจกรรมนิวเคลียร์แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร เมื่อถอนตัวไปแล้วทรัมป์ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเป็นวงกว้างต่ออิหร่านอีกครั้งหนึ่งนับจากนั้นอิหร่านก็เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินกว่าข้อจำกัดมาก

มหาตะวันตกกล่าวหาอิหร่านว่ามีแผนการลับในการพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์โดยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์สูงเกินกว่าจะใช้สำหรับโครงการพลังงานปรมาณูเพื่อพลเรือนอย่างที่อิหร่านอ้างมาโดยตลอด