'เกาหลีใต้' ประกาศมาตรการฉุกเฉินช่วยภาคธุรกิจรับมือภาษีทรัมป์

ปธน. เกาหลีใต้ ประกาศมาตรการฉุกเฉิน ช่วยภาคธุรกิจรับมือผลกระทบจากภาษีตอบโต้ของสหรัฐ หลังถูกเก็บ 25% ซ้ำเติมภาษีรถยนต์ กระทบหนักทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่าน 'เวียดนาม'
กระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า ฮัน ด็อกซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้สั่งการให้มี มาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ทั่วโลก ซึ่งเกาหลีใต้ถูกเรียกเก็บในอัตรา 25%
ปธน.เกาหลีใต้ ได้ขอให้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมวิเคราะห์เนื้อหาของภาษีศุลกากร และเจรจากับรัฐบาลวอชิงตันอย่างจริงจัง เพื่อลดผลกระทบจากภาษีตอบโต้ของสหรัฐ
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ประธานาธิบดีฮันจะทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมกับภาคเอกชน เพื่อหารือเกี่ยวกับการตอบสนองต่อภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อไป
“เนื่องจากสงครามการค้าโลกได้กลายเป็นความจริง รัฐบาลจะต้องทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อเอาชนะวิกฤติการค้า” ปธน.ฮันกล่าวในการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีคลังและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ
เกาหลีใต้คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจากภาษีรถยนต์ 25% ที่สหรัฐเรียกเก็บทั่วโลกและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. เนื่องจากสหรัฐนำเข้ารถยนต์จากเกาหลีใต้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในปีที่แล้ว และเมื่อเผชิญกับภาษีศุลกากรตอบโต้ล่าสุดอีก 25% ก็จะยิ่งกดดันการค้าการส่งออกของเกาหลีใต้หนักขึ้น
ทั้งนี้ในสุนทรพจน์ของทรัมป์เมื่อวันพุธที่แถลงเรื่องภาษีตอบโต้ ทรัมป์ได้กล่าวถึง "เกาหลีใต้" และ "ญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของสหรัฐในเอเชีย โดยกล่าวหาว่าทั้งสองประเทศเป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิดรายใหญ่ที่สุด จากการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐ
บรรดานักวิเคราะห์ในกรุงโซลกล่าวว่า การที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจำนวนมากนั้น "รุนแรงกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้" ส่งผลให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่พึ่งพาการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
“เศรษฐกิจในประเทศจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักอย่างแน่นอน” พัค ซังฮยอน นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์ไอเอ็ม ซีเคียวริตีส์ กล่าว
“เป็นที่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก เช่น รถยนต์ จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และการส่งออกไปยังสหรัฐผ่านฐานการผลิตใน 'เวียดนาม' ก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน”
พัคระบุถึง "เวียดนาม" ที่ถูกเก็บภาษีสูงถึง 46% ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่จากเกาหลีใต้ เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์ และแอลจี อิเล็กทรอนิคส์ ต่างก็มีฐานการผลิตในเวียดนาม
ดัชนี KOSPI ดิ่งลงมากถึง 2.7% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากหุ้นในกลุ่มยานยนต์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 14 เดือน และหุ้นบริษัทผลิตชิปก็ร่วงลงเช่นกัน
ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชเว ซังม็อก กล่าวหลังการหารือแยกกับผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้และเจ้าหน้าที่กำกับดูแลทางการเงินอื่นๆ ว่า ทางการจะปรับใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงิน หากมองว่าตลาดมีความผันผวนมากเกินไป
ก่อนหน้านี้ที่ทรัมป์จะประกาศเกี่ยวกับภาษีล่าสุด เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ได้พยายามขอรับการยกเว้นมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเกาหลีใต้แทบไม่มีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรใดๆ เลย เนื่องจากมีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่ครอบคลุมกับสหรัฐอยู่แล้ว