มาเลเซียผนึกกำลังอาเซียนตอบโต้ภาษีทรัมป์

มาเลเซียผนึกกำลังอาเซียนตอบโต้ภาษีทรัมป์

อันวาร์เผยหลังหารือกับผู้นำหลายประเทศ สัปดาห์นี้มาเลเซียในฐานะประธานจะประสานพลังอาเซียน รับมือภาษีตอบโต้ของสหรัฐ

เว็บไซต์นิกเคอิรายงาน นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน กล่าวผ่านคลิปวีดิโอเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อกลางดึกวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ว่า 

ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในกลุ่มโดนภาษีใหม่ของสหรัฐเล่นงานหนักที่สุด กัมพูชาถูกเก็บภาษี 49% เวียดนาม 46% ซึ่งการเก็บภาษีศุลกากรหว่านแหแบบนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “จุดเริ่มต้นของความท้าทายยิ่งใหญ่กว่า” ในสภาพแวดล้อมภายนอก

“มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะเป็นผู้นำความพยายามแสดงให้เห็นความเป็นเอกภาพของภูมิภาค รักษาห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นเปิดกว้าง และทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเสียงร่วมกันของอาเซียนจะถูกรับฟังอย่างชัดเจนและหนักแน่นในเวทีระหว่างประเทศ” อันวาร์กล่าวและว่า นายซาฟุรล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมมาเลเซีย จะประชุมกับรัฐมนตรีการค้าของสมาชิกอาเซียนในวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.) เพื่อ “กำหนดและจัดวางจุดยืนของเราให้ตรงกัน”

“มันหมายความว่าอย่างไรสำหรับเรา? มันหมายความว่าเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้น หากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่ามาก” อันวาร์กล่าว

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนมีกำหนดประชุมกันในวันที่ 10-11 เม.ย. ตามแผนการที่วางไว้นานแล้ว

ตอนที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศภาษี เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (3 เม.ย.) ตามเวลาเอเชีย มาเลเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลวอชิงตันที่ว่า มาเลเซียเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 47% แต่ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รัฐบาลมาเลเซียกล่าวว่าจะไม่เก็บภาษีตอบโต้

ก่อนโพสต์คลิปในวันอาทิตย์ อันวาร์กล่าวว่า เขาและนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ของเวียดนามเห็นชอบใช้แนวทางตอบโต้มาตรการค้าของสหรัฐอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนผ่านการเจรจาพวกเขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคด้วย

ประธานาธิบดีโต เลิมของเวียดนามได้คุยกับทรัมป์ในวันเสาร์ (5 เม.ย.) หลังจากส่งจดหมายแจ้งว่าจะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐทุกชนิด ขอให้สหรัฐชะลอการเก็บภาษีใหม่ออกไป 45 วัน

ทรัมป์โพสต์โซเชียลมีเดียว่า การสนทนาระหว่างเขากับโต เลิม “ได้ประสิทธิผลอย่างมาก” แต่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึษาการค้าของทรัมป์กล่าวในรายการ Sunday Morning Futures ทางช่องฟ็อกซ์นิวส์ในวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ว่า ข้อเสนอของเวียดนามยังไม่มากพอ

“หากคุณยอมลดภาษีให้เราง่ายๆ ลดภาษีเหลือศูนย์ เราก็ยังขาดดุลการค้าเวียดนามราว 1.2 แสนล้านดอลลาร์อยู่ดี และปัญหาอยู่ที่การเอาเปรียบที่ไม่ใช่ภาษีทุกอย่างที่พวกเขาทำ” นาวาร์โรกล่าว

ในคืนวันอาทิตย์ อันวาร์ยังหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต ของอินโดนีเซียพูดคุยเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากภาษีของสหรัฐและวิธีการประสานความช่วยเหลือภัยแผ่นดินไหวในเมียนมาด้วย

ก่อนหน้านั้นอันวาร์คุยกับผู้นำฟิลิปปินส์ บรูไน และสิงคโปร์ หารือเรื่องการตอบสนองร่วมกันของอาเซียนแล้ว

ผู้นำมาเลเซียย้ำในแถลงการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียยังทนทานได้ แต่ไม่วายกล่าวเสริมว่า จะทบทวนเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี 2568 ที่วางไว้ 4.5%-5.5% แต่ไม่คาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะถดถอย

“พื้นฐานเศรษฐกิจมหภาคของเรายังคงแข็งแกร่ง เช่น รายจ่ายครัวเรือนคึกคัก การลงทุนภายในประเทศเฟื่องฟู รายได้จากการท่องเที่ยวดี การปฏิบัติตามแผนแม่บทของชาติดำเนินไปต่อเนื่องการค้าของเราสร้างขึ้นจากเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลกที่หลากหลายซึ่งสั่งสมมานานหลายปี” อันวาร์ระบุ

ในการบรรยายสรุปกับข้าราชการประจำเดือน เม.ย. เมื่อวันจันทร์ (7 เม.ย.) อันวาร์กล่าวว่า ตอนนี้โลกกำลังอยู่ในยุคที่ต้องตัดสินใจทางการเมืองและเศรษฐกิจ เช่น การประกาศภาษีของสหรัฐ ในทัศนะของเขา “ตั้งอยู่บนพื้นฐานเลื่อนลอยมาก”

อันวาร์วิจารณ์วิธีกำหนดภาษีว่าน่าสงสัย การประเมินอาจไม่ได้ทำอย่างถี่ถ้วน นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกล่าวว่า การคำนวณภาษีศุลกากรตอบโต้ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์เลย

“เราควรยืนหยัดในฐานะกลุ่มใหญ่ อาเซียนมีประชากร 640 ล้านคน ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับชั้นนำของโลกเมื่อรวมเข้าด้วยกันถือเป็นภูมิภาคที่สงบมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นภูมิภาคที่ขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือทั่วโลกด้วย” อันวาร์กล่าว