อินเดียปฏิเสธ ‘BYD’ แต่อ้าแขนรับ ‘Tesla’ ท่ามกลางภาษีทรัมป์ 26%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินเดียจะ “จำกัดการเข้าถึงตลาด” ของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า “BYD” จากจีน ขณะเดียวกันอินเดียก็เชิญชวนบริษัทรถคู่แข่งจากสหรัฐอย่าง “Tesla” ให้เข้ามาลงทุน สะท้อน “ความกังวล” อย่างต่อเนื่องที่มีต่อจีน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะเริ่มมีสัญญาณผ่อนคลายลงในช่วงหลัง

“อินเดียจำเป็นต้องระมัดระวังผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ และต้องพิจารณาว่า เราจะอนุญาตให้ใครเข้ามาลงทุนได้บ้าง” พียูช โกยาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว “ณ ตอนนี้ คำตอบสำหรับ BYD คือไม่” 

เมื่อปีที่แล้ว อินเดียได้ “ปฏิเสธ” ข้อเสนอการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ของบริษัท BYD ซึ่งยื่นร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ขณะเดียวกัน บริษัทรถยนต์จีนอีกรายอย่าง Great Wall Motor ก็ถอนตัวออกจากตลาดอินเดีย หลังไม่สามารถขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลได้สำเร็จ

ถ้อยแถลงของโกยาลมีขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 50% กับจีน หากจีนไม่ยอมถอนแผนเก็บภาษีตอบโต้ภายในวันที่ 8 เมษายน

จากท่าทีแข็งกร้าวของอินเดีย สะท้อนถึงแนวทางปกป้องตลาดในประเทศที่เข้มข้นมากขึ้น โดยอินเดียเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ประกอบสำเร็จรูปถึง 100% ซึ่งถือว่า “สูงที่สุด” ในบรรดาเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศ

อย่างไรก็ตาม เมื่อการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐ และสหภาพยุโรปเริ่มเร่งตัว แรงกดดันให้อินเดียเปิดตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกให้กับผู้เล่นต่างชาติก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“อินเดียยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการทำข้อตกลงทางการค้ากับประเทศพัฒนาแล้ว” โกยาล กล่าว พร้อมเสริมว่า อินเดียจะระมัดระวังเรื่องการ “ทุ่มตลาด” จากจีน

สำหรับอินเดีย ต้องการเป็นฮับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก แต่กำแพงการเข้าสู่ตลาดที่สูง เมื่อเทียบกับสหรัฐซึ่งเก็บภาษีเพียง 2.5% เยอรมนี 10% และจีนสูงสุดที่ 25% กลับกลายเป็น “อุปสรรค” โดย Tesla ยังไม่เข้ามาลงทุนในอินเดีย เพราะเห็นว่าภาษีนำเข้าสูงเกินไป

ขณะที่ BYD ก็ประสบปัญหาในการขออนุมัติการลงทุน แม้ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยา และ SUV ขนาดกะทัดรัด ในราคาต่ำกว่า 8.5 แสนล้านบาท จะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม

ตรงจุดนี้เองที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอินเดียอย่าง Tata Motors และ Mahindra & Mahindra สามารถเติบโตได้ดี ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถในประเทศต่อต้านการผ่อนปรนภาษีนำเข้า เพราะเกรงว่าจะเปิดทางให้คู่แข่งต่างชาติเข้ามาตัดราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลกำลังเพิ่มแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
 

 

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์