จีนประชุมด่วนวันนี้ ถกมาตรการกระตุ้นเพิ่มรับภาษีทรัมป์ 125%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนจะเปิดการประชุมเฉพาะกิจขึ้นในวันนี้ (10 เม.ย.68) เพื่อหารือ "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม" หลังจากที่สงครามภาษีระหว่างสหรัฐกับจีนถูกยกระดับตึงเครียดขึ้น สวนทางกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งประกาศผ่อนปรนภาษีกับทุกประเทศทั่วโลก

แหล่งข่าวระบุว่า การประชุมเฉพาะกิจครั้งนี้จะเน้นไปที่ "มาตรการสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัย การใช้จ่ายของผู้บริโภค และนวัตกรรมเทคโนโลยี" โดยหน่วยงานภาครัฐรวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน จะประชุมร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด อย่างไรก็ดี กำหนดการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

การประชุมดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นของปักกิ่ง เรื่องความเสียหายจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่าง "สหรัฐ" กับ "จีน" ซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังไม่มีใครยอมถอยในเรื่องนี้

เมื่อช่วงเย็นวันพุธ จีนประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มจาก 34% เป็น 84% เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. นี้ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 104% 

ต่อมาในคืนวันพุธตามเวลาในไทย ทรัมป์ได้ประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% “โดยจะมีผลบังคับใช้ทันที” เนื่องจาก “จีนไม่เคารพตลาดโลก” สวนทางกับที่ผ่อนปรนภาษีเพิ่มเติมให้ประเทศคู่ค้ามากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยยังคงการเก็บภาษีพื้นฐาน 10% อยู่ แต่ผ่อนผันการขึ้นภาษีเพิ่มจากนั้นโดยเลื่อนออกไป 90 วันเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจากัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวกลับขึ้นในแดนบวกอย่างร้อนแรงในรอบหลายสิบปีวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงที่บวกมาก่อนหน้านี้แล้วจากมาตรการพยุงตลาดของรัฐบาลปักกิ่ง ขณะที่นักลงทุนต่างคาดการณ์จีนอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แม้ว่าค่าเงินหยวนในประเทศจะอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ก็ตาม

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายของจีนได้หารือกันว่าจะเร่งรัดแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการบริโภคหรือไม่ รวมถึงเดินหน้ามาตรการต่างๆ ที่วางแผนไว้ก่อนที่ทรัมป์จะขึ้นภาษีนำเข้าด้วยซ้ำ

หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ลงบทความใน "หน้าหนึ่ง" ของหนังสือพิมพ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ระบุว่า จีนยังมีพื้นที่ในการออกนโยบายสนับสนุนอีกมาก ซึ่งรวมถึงการลดดอกเบี้ย และการลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ หรือ RRR เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันปักกิ่งยังได้ดำเนินการจำกัดการลงทุนของบริษัทจีนในสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ปักกิ่งมีอำนาจต่อรองเพิ่มเติมในการเจรจาการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาลทรัมป์

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์