เศรษฐกิจ ‘จีน’ Q1 ปี 68 โตเกินเป้า 5.4% เตรียมตั้งรับ ‘สงครามการค้า’

เศรษฐกิจ ‘จีน’ Q1 ปี 68 โตเกินเป้า  5.4% เตรียมตั้งรับ ‘สงครามการค้า’

เศรษฐกิจ ‘จีน’ ไตรมาส 1 ปี 68 เติบโตที่ 5.4% รับแรงหนุนภาคอุตสาหกรรมฟื้น เตรียมตั้งรับผลกระทบจาก ‘สงครามการค้า’ หลังสหรัฐกดดันให้จีนเป็นฝ่ายเข้าหา

สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า “เศรษฐกิจจีน” ไตรมาสแรกของปีนี้เติบโต 5.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ "ประมาณ 5%" การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้นกับสหรัฐ 

ตัวเลขการเติบโต 5.4% ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนประกาศเมื่อวันพุธนั้น สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่รอยเตอร์สำรวจคาดการณ์ไว้ที่ 5.1% และยังคงเท่ากับการเติบโต 5.4% ที่ทำได้ในไตรมาสก่อนหน้า

แม้ว่าจีนจะกำลังเผชิญกับปัญหาเงินฝืด แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกนี้มาจากการผลิต โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตถึง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตเร่งผลิตและส่งออกสินค้าก่อนที่สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น 

นอกจากนี้ การลงทุนในพวกโรงงานและเครื่องจักรก็เพิ่มขึ้น 4.2% ซึ่งช่วยชดเชยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงได้ ส่วนยอดขายปลีกจากการจับจ่ายใช้สอยของคนทั่วไปก็เพิ่มขึ้น 4.6% ในไตรมาสนี้ และในเดือนมีนาคมก็ยิ่งซื้อกันมากขึ้นถึง 5.9%

จับตา ‘สงครามการค้า’ กดดันเศรษฐกิจ

ข่าวดีเรื่องเศรษฐกิจจีนโตกลับถูกกลบด้วยเรื่องภาษีที่ “โดนัล ทรัมป์”ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนสูงถึง 145% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจีนก็โต้กลับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกาตอบโต้ไปถึง 125% ด้วย 

แม้ว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกจะยังมีแนวโน้มสดใส แต่ UBS ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีนในปีนี้ลงจาก 4% เหลือ 3.4% เพราะคาดว่าจะยังคงได้รับผลกรทบจากสงครามการค้า 

วานนี้สหรัฐประกาศกดดัน “จีน” ว่าต้องเป็นฝ่ายเข้ามาตกลงกับสหรัฐ เหมือนที่ประเทศอื่นๆ กำลังทำอยู่ตอนนี้ 

"ตอนนี้อยู่ที่จีนแล้ว จีนต้องมาทำข้อตกลงกับเรา เราไม่จำเป็นต้องไปทำข้อตกลงกับเขา" โฆษกของทรัมป์กล่าว

นักลงทุนทั่วโลกกำลังเฝ้าดูว่าทั้งอเมริกาและจีนจะลดภาษีนำเข้าที่ตั้งกันไว้หรือไม่ เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าภาษีที่สูงขนาดนี้แทบจะทำให้การค้าขายระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่นี้หยุดชะงักเลย  

อ้างอิง Nikkei