'เวียดนาม' คุมเข้มส่งออกผิดกฎหมาย หวัง 'สหรัฐ' ลดแรงกดดันภาษี

‘เวียดนาม’ สั่งกระทรวงพาณิชย์คุมเข้มตรวจสอบสินค้าส่งออกผิดกฏหมาย ตีป้าย Made in Vietnam หวั่นลักลอบเลี่ยงภาษีสหรัฐเพิ่มขึ้น หวัง 'สหรัฐ' ลดแรงกดดันด้านภาษี
รอยเตอร์รายงานว่า “เวียดนาม” สั่งการให้ กระทรวงพาณิชย์คุมเข้มการลักลอบส่งสินค้าแบบผิดกฎหมายไปยังสหรัฐและชาติคู่ค้าอื่นๆเพื่อ เลี่ยงภาษีนำเข้าสหรัฐ โดยกระทรวงคาดการณ์ว่าปัญหาการโกงการค้าน่าจะมากขึ้น เพราะความขัดแย้งเรื่องภาษีสหรัฐกำลังตึงเครียดขึ้น ซึ่งคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
กระทรวงพาณิชย์เวียดนาม เตือนว่า หากปล่อยให้มีการโกงการค้าต่อไป จะทำให้เวียดนามหลีกเลี่ยงมาตรการลงโทษทางการค้าจากนานาชาติทำได้ยากขึ้น
ถึงแม้ว่าคำสั่งจะไม่ได้เจาะจงว่าชาติใดเป็นต้นเหตุของการลักลอบส่งสินค้า แต่สินค้าที่เวียดนามนำเข้าเกือบ 40% มาจากจีน และสหรัฐก็ออกมากล่าวหาอย่างชัดเจนว่า จีนใช้เวียดนามเป็นเหมือนจุดพักสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีนำเข้าของสหรัฐ
หวัง 'สหรัฐ' ลดแรงกดดันด้านภาษี
ล่าสุดเวียดนามเตรียมเริ่มการเจรจากับสหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนาม “ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์” สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับการฉ้อโกงทางการค้า การปลอมแปลง และปัญหาอื่นๆ ที่สหรัฐกังวล หลังทรัมป์ได้กำหนด "ภาษีตอบโต้" กับเวียดนามในอัตรา 46% ซึ่งตอนนี้ถูกระงับไว้จนถึงเดือนก.ค.
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ ศุลกากร และหน่วยงานอื่นๆ ได้รับคำสั่งให้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลและตรวจสอบสินค้าที่นำเข้า เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา โดย "เฉพาะอย่างยิ่งวัตถุดิบนำเข้าที่ใช้ในการผลิตและส่งออก"
เวียดนามคุมเข้ม Made in Vietnam หลังจีนเตือน
คำสั่งจากกระทรวงพาณิชย์เวียดนามออกมาในวันที่ประธานาธิบดีจีน “สี จิ้นผิง” เพิ่งเสร็จสิ้นการเยือนเวียดนาม โดยทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ รวมถึงความร่วมมือด้านการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ออกมาเตือนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ให้ระมัดระวังในการทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ
พร้อมกันนี้ จีนยังได้กล่าวหาว่า มีการลักลอบขนถ่ายสินค้าอย่างผิดกฎหมาย โดยสินค้าจีนถูกส่งออกไปเวียดนามเพื่อทำการเปลี่ยนใบรับรองแหล่งกำเนิด โดยที่สินค้าเหล่านั้นไม่ได้มีการผลิตหรือเพิ่มมูลค่า ก่อนที่จะส่งต่อไปยังสหรัฐและเสียภาษีนำเข้าในอัตราที่ต่ำกว่าสินค้าที่ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของจีน
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จึงตรวจสอบโรงงานและควบคุมการออกฉลาก "Made in Vietnam" อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะบริษัทที่มีการยื่นขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เสนอมาตรการเฉพาะเพื่อป้องกันการลักลอบเปลี่ยนถ่ายสินค้า