Gucci ยอดขายทรุดหนัก 25% ซ้ำเติมตลาดแบรนด์เนมยังไม่ฟื้น

Gucci เผยยอดขายไตรมาสแรกทรุดหนัก 25% ซ้ำเติมตลาดแบรนด์เนมยังไม่ฟื้นจากภาวะซบเซา ฝากความหวังกับดีไซเนอร์คนใหม่ปั้นอนาคตบริษัท Kering
บลูมเบิร์กรายงานยอดขายของ “กุชชี่” (Gucci) ในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงอย่างมากถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาด จากความพยายามของบริษัท Kering SA ในการฟื้นฟูแบรนด์กุชชี่ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเครือที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้
นอกจากนี้ ยอดขายโดยรวมในเครือ Kering พบว่ายอดขายลดลงถึง 25% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังลดลงในอัตราเลขสองหลักในตลาดสำคัญอื่นๆ เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ Kering กำลังเผชิญอยู่ในหลายภูมิภาคทั่วโลก
Luca Solca นักวิเคราะห์จาก Bernstein ระบุว่า การฟื้นตัวของแบรนด์กุชชี่ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรอคอย และน่าจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าหรูหราลดน้อยลง
ดีไซเนอร์คนใหม่คือความหวังของแบรนด์
บริษัท Kering ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์หรูอื่นๆ เช่น Yves Saint Laurent, Bottega Veneta และ Balenciaga นั้น พึ่งพารายได้จาก Gucci มากกว่า 60% ดังนั้น การทำให้แบรนด์ที่กำลังมีปัญหาอย่าง Gucci กลับมาเติบโตได้อีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของกลุ่มบริษัท
เมื่อเดือนที่แล้ว ตระกูลมหาเศรษฐี Pinault ผู้กุมชะตาของบริษัทได้ตัดสินใจแต่งตั้ง Demna Gvasalia ดีไซเนอร์ชื่อดัง ให้เข้ามารับตำแหน่งดีไซเนอร์คนใหม่ของ Gucci ซึ่งเป็นความหวังที่จะนำพาแบรนด์กลับมาสู่ความรุ่งโรจน์
ในช่วงปีที่ผ่านมา หุ้นของ Kering ร่วงลงถึง 50% ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ย่ำแย่กว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดสินค้าหรูหรา เช่น Richemont, Hermes และ LVMH โดยหลังจากที่มีการประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวังออกมา
สถานการณ์ล่าสุด สหรัฐอาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหรูหรา ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงที่ตลาดสินค้าหรูหราเติบโตชะลอตัว ก็ยิ่งทำให้แนวโน้มของอุตสาหกรรมนี้ดูไม่สดใส แม้แต่แบรนด์หรูชั้นนำอื่นๆ อย่าง Hermès International SCA และ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE ก็ยังทำผลงานได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่ากับ Kering ก็ตาม
อ้างอิง Bloomberg